ของแต่งงาน

รวมของแต่งงานที่คู่บ่าวสาวควรเตรียมให้พร้อม ก่อนเข้าประตูวิวาห์

หลังจากขอแต่งงานและสวมแหวนหมั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือการเตรียมตัวเข้าสู่พิธีวิวาห์นั่นเอง แล้วของแต่งงานที่คู่บ่าวสาวควรเตรียมให้พร้อมมีอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำค่ะ

พิธีแต่งงานแบบไทยมีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง

ในที่นี้เราจะขอพูดถึงของแต่งงานสำหรับพิธีแต่งงานแบบไทย ซึ่งเป็นพิธีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและไม่ยุ่งยาก สามารถดำเนินการจนเสร็จสิ้นได้ภายใน 1 วัน แม้ว่าตัวพิธีจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ก็ยังคงรักษาขั้นตอนพิธีการแต่งงานตามธรรมเนียมไทยที่สืบต่อกันมา โดยส่วนใหญ่นิยมจัดพิธีหมั้นในช่วงเช้า (พิธีแต่งงานเช้า), จัดงานเลี้ยงวิวาห์ช่วงบ่าย (เที่ยง) แต่หากจัดงานเลี้ยงช่วงเย็นจะเรียกว่า พิธีงานแต่งเย็น แบ่งเป็น 7 ขั้นตอน ได้แก่

  • พิธีแห่ขันหมาก เมื่อถึงกำหนดฤกษ์มงคลแล้วฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องจัดเตรียมขบวนขันหมากเพื่อเดินทางไปสู่ขอเจ้าสาว
  • พิธีสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตคู่ คู่บ่าวสาวจะต้องทำบุญร่วมกันและนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ ตามหลักแล้วจะนิมนต์พระมาสวด 9 รูป เนื่องจากเลข 9 เป็นเลขมงคล หมายถึงความเจริญก้าวหน้าในชีวิตคู่
  • พิธีสู่ขอและตรวจนับสินสอด หลังจากจบพิธีแห่ขบวนขันหมากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงวางพานขันหมากเอก, พานธูปเทียนแพ, พานสินสอดทองหมั้น และพานแหวนหมั้น มาเรียงไว้บนโต๊ะด้านหน้าของพิธี จากนั้นพิธีกรจะเรียนเชิญผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมานั่งเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ด้านหน้าเวที โดยให้ฝ่ายหญิงนั่งพับเพียบอยู่ทางซ้าย ส่วนฝ่ายชายนั่งพับเพียบอยู่ทางขวา ส่วนพ่อของทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่ด้านนอกสุด
  • พิธีหมั้น เจ้าสาวจะกราบบริเวณตักหรือระดับอกของเจ้าบ่าว 1 ครั้ง ส่วนเจ้าบ่าวพนมมือรับไหว้เจ้าสาว จากนั้นเจ้าบ่าวจึงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าสาว ส่วนเจ้าสาวกราบเจ้าบ่าวอีก 1 ครั้ง เพื่อขอบคุณ หลังจากนั้นเจ้าสาวจึงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าบ่าว
  • พิธีรับไหว้หรือผูกข้อมือ คู่บ่าวสาวจะยกพานธูปเทียนแพแล้วคลานเข้าไปกราบญาติผู้ใหญ่ โดยเริ่มจากพ่อแม่และปู่ย่าตายายของฝ่ายชายก่อนแล้วตามด้วยญาติทางฝ่ายหญิง ซึ่งพ่อแม่จะรับไหว้และกล่าวให้ศีลให้พร จากนั้นจึงหยิบด้ายมงคล (หรืออาจใช้สายสิญจน์แทนก็ได้) มาผูกข้อมือของคู่บ่าวสาว จากนั้นคู่บ่าวสาวจึงยกพานธูปเทียนแพไปให้ผู้ใหญ่ หลังจากผู้ใหญ่รับพานแล้วจึงวางเงินในพานให้คู่บ่าวสาวเพื่อเป็นเงินตั้งต้นสำหรับชีวิตคู่
  • พิธีรดน้ำสังข์ คู่บ่าวสาวนั่งที่ตั่งรดน้ำสังข์ โดยให้เจ้าบ่าวนั่งด้านขวามือของเจ้าสาว ประธานในพิธีจะคล้องพวงมาลัยและสวมมงคลแฝดลงบนศีรษะของคู่บ่าวสาว แล้วจึงหลั่งน้ำอวยพรให้บ่าวสาว จากนั้นจึงให้พ่อแม่, ญาติผู้ใหญ่, ผู้ร่วมงานท่านอื่นเข้ามารดน้ำสังข์โดยเรียงลำดับตามความอาวุโส หลังจากรดน้ำสังข์เสร็จแล้วจึงปลดสายมงคลออกจากศีรษะคู่บ่าวสาว เป็นอันเสร็จพิธี

ของแต่งงานที่คู่บ่าวสาวควรเตรียมให้พร้อมก่อนเข้าสู่ประตูวิวาห์

1. ฤกษ์แต่งงาน

เมื่อคู่รักตกลงปลงใจที่จะแต่งงานด้วยกันแล้ว ควรหาฤกษ์แต่งงานเพื่อกำหนดวันเวลา ฤกษ์งามยามดี และเผื่อเวลาสำหรับเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย ทั้งนี้ต้องดูความสะดวกของฝ่ายต่าง ๆ อาทิ ผู้จัดงานและทีมงาน ไปจนถึงแขกคนสำคัญที่จะมาร่วมงาน โดยที่ระยะเวลาจะต้องไม่กระชั้นชิดเกินไป

2. สถานที่จัดงาน

หลังจากได้ฤกษ์มงคลแล้วจึงค่อยมองหาสถานที่จัดงาน หากคุณต้องการเลือกสถานที่ในฝันซึ่งเป็นที่นิยมของคู่บ่าวสาวหลายคู่แล้วล่ะก็ ควรรีบจับจองสถานที่เหล่านั้นเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ต่อมาจึงเริ่มคำนวณจำนวนแขกเพื่อวางแผนงบประมาณที่ใช้ซื้อสิ่งต่าง ๆ ภายในงาน

3. งบประมาณงานแต่ง

ต้องดูก่อนว่าเราและคู่ต้องการงานแต่งขนาดเท่าไหร่ ในปัจจุบันมีงานแต่งให้เลือกทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ ขนาดเล็ก (ไซส์มินิ), ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้

  • งานแต่งงานขนาดเล็ก (ไซส์มินิ) มีแขกเข้าร่วมงานเพียงแค่ 10 – 50 คน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว บ่าวสาวจะเชิญแขกเฉพาะคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น
  • งานแต่งงานขนาดกลาง เป็นประเภทของงานแต่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีแขกเข้าร่วมงานประมาณ 50 – 150 คน งานแต่งประเภทนี้อาจยกระดับขึ้นมาหน่อย โดยการเชิญทั้งแขกที่เป็นเพื่อนและแขกของญาติผู้ใหญ่ด้วย เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่มีงบค่าใช้จ่ายสำหรับงานแต่งในระดับหนึ่ง และไม่ต้องการใช้จ่ายกับงานนี้มากเกินไป
  • งานแต่งงานขนาดใหญ่ มีแขกร่วมงานหลากหลายระดับ เริ่มที่ 200 คนขึ้นไป งานแต่งประเภทนี้นิยมเชิญคนใหญ่คนโตเข้าร่วมงาน เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่มีฐานะดี

เมื่อรู้ความต้องการของคุณและคู่แล้ว อันดับต่อมาคือการคำนวณค่าใช้จ่ายตั้งแต่ก่อนจัดงานแต่งไปจนจบงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าดูฤกษ์ยาม ค่าสถานที่แต่งงาน ค่าซุ้มแต่งงานและของตกแต่งสถานที่ ค่าจัดงานพิธี ค่าช่างภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง คอร์สดูแลร่างกาย ค่าช่างแต่งหน้าทำผม ค่าช่างภาพวันงาน ค่าการ์ดแต่งงานและของชำร่วย ค่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือค่าเช่าชุดแต่งงาน ค่าตัวพิธีกรกล่าวเปิดงาน ค่าวงดนตรีภายในงาน ค่าเค้กแต่งงาน ค่าอาหารและเครื่องดื่มภายในงาน ค่าเดินทางสำหรับฮันนีมูน ทั้งนี้ควรเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติมหากเกิดปัญหาระหว่างจัดงานอีกด้วยนะคะ

แต่หากคุณและคู่ไม่รู้ว่าจะคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างไรดี ทางเราขอแนะนำให้คำนวณจากหลักง่าย ๆ  3 อย่าง ดังนี้

  • คิดจากจำนวนแขก ตั้งจำนวนแขกที่จะเชิญเข้างานก่อนว่าควรมีกี่คน เผื่อเหลือเผื่อขาดจำนวนเท่าไหร่ แล้วแขกแต่ละคนน่าจะใส่ซองขั้นต่ำสุดคนละเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น จัดงานขนาดเล็ก ต้องการเชิญแขกมาร่วมงานเพียง 50 คน ส่วนสถานที่จัดคิดหัวละ 5,000 บาท ฉะนั้นเราควรมีงบอย่างน้อย 50 x 5,000 = 250,000 บาท
  • คิดจากรายได้ต่อเดือน โดยคิดจากรายได้ต่อเดือนของคุณและคู่ภายในระยะเวลา 3 – 4 เดือนรวมกัน เพื่อเป็นงบประมาณในการจัดงาน เช่น หากของคุณและคู่มีรายได้ต่อเดือนตกคนละ 50,000 บาท เมื่อนำรายได้ทั้ง 3 เดือนมารวมกันจะได้เงินจำนวน 300,000 บาท ดังนั้นเงินที่ใช้จัดงานแต่งก็ไม่ควรเกินไปจากนี้ ซึ่งการคำนวณรายได้หรือเงินออมโดยใช้รายได้ 3 เดือนเป็นตัวตั้ง นอกจากจะช่วยกำหนดทิศทางและขนาดของงานให้เป็นไปตามงบแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาคิดไม่ตกว่าจะจัดงานแบบไหนได้อีกด้วย
  • คิดจากเงินช่วยเหลือของครอบครัว หากคุณและคู่ได้รับเงินช่วยเหลือจากครอบครัว ก็สามารถนำเงินส่วนนี้มารวมกับเงินเก็บของตัวเองได้ จากนั้นจึงคำนวณงบประมาณงานแต่ง หรืออาจปรึกษาผู้ใหญ่เกี่ยวกับงบประมาณงานแต่งก็เป็นความคิดที่เข้าท่าเช่นกัน

4. การ์ดแต่งงาน

หลังจากกำหนดงบประมาณแล้ว ขั้นต่อมาจึงเริ่มไปที่การแจกการ์ดแต่งงาน ซึ่งเป็นการ์ดสำหรับบอกเล่าเรื่องราวความรักของคุณและคู่ให้แขกที่มาร่วมงานได้ทราบ หลักการเลือกการ์ดแต่งงานนั้นนอกจากความสวยงามแล้ว ภายในการ์ดจะต้องระบุรายละเอียดของงานได้อย่างครบถ้วน ทั้งวันที่และสถานที่จัดงาน นอกจากนี้หากคุณกำหนดธีมของงานไว้อยู่แล้ว แนะนำให้บอกลงไปในการ์ดด้วย เพื่อให้แขกเตรียมชุดสำหรับใส่ไปงานให้เข้ากับธีมมากขึ้น การ์ดแต่งงานในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่

  • การ์ดแบบประหยัด ข้อดีของการ์ดประเภทนี้คือราคาที่ถูกมาก
  • การ์ดใส มาพร้อมหมึกกันน้ำ ตัวกระดาษแข็งแรงทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย
  • การ์ดแข็งพิเศษ ข้อดีของการ์ดประเภทนี้คือผิวสัมผัสที่แตกต่างจากกระดาษทั่วไป พิมพ์ได้สี่สีมาพร้อมหมึกกันน้ำ

5. ชุดขันหมาก

ขันหมากมี 2 ประเภท ได้แก่ ขันหมากเอก และขันหมากโท ส่วนดีไซน์ที่นิยมใช้มีอยู่ 2 โทนสี ได้แก่ ขาวเขียว และชมพูเขียว โดยแบ่งรายละเอียดปลีกย่อย ดังนี้

5.1 ขันหมากเอก

  • พานขันหมากเอก ประกอบด้วยหมาก 8 ผล, พลู 4 เรียง เรียงละ 8 ใบ, ถุงเงิน 2 ใบ, ถุงทอง 2 ใบ, ซองใส่เงิน 1 ซอง, ถั่วเขียว, งาดำ, ข้าวเปลือก, ข้าวตอก, ใบเงิน, ใบทอง และใบนาค
  • พานสินสอด สำหรับใส่ของมีค่าอย่างเงิน, ทอง, เพชร, และนาคเอาไว้ในพานเดียว หรือ 2 พานก็ได้เช่นกัน โดยจะมีผ้าลูกไม้หรือฝาครอบสำหรับคลุมพาน
  • พานแหวนหมั้น เป็นพานที่มีขนาดเล็กกว่าพานประเภทอื่น มีการประดับพานให้สวยงามด้วยดอกไม้นานาชนิด ใช้สำหรับวางแหวนหมั้น
  • พานธูปเทียนแพ ประกอบด้วยกรวยใบตองครอบกระทงดอกไม้, ธูปแพไม้ระกำ 10 ดอก และเทียน 10 แท่ง แต่ทั้งนี้ห้ามวางธูปเทียนสลับกันเด็ดขาด เพราะการวางลักษณะนี้ใช้สำหรับงานศพเท่านั้น
  • พานผ้าสำหรับไหว้ ปัจจุบันแบ่งพานไหว้ผู้ใหญ่ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนผ้าขาวสำหรับนุ่ง 1 ผืน และผ้าห่ม 1 ผืน, เทียนและธูปหอม, ดอกไม้ 1 กระทง สำหรับเซ่นไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ แต่หากญาติผู้ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ต้องจัดพานนี้ และส่วนที่สองใช้สำหรับไหว้ญาติผู้ใหญ่ ได้แก่ พ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีผ้าขาวสำหรับนุ่งและผ้าห่ม อย่างละ 1 ผืน ทั้งนี้อาจใช้เสื้อผ้าหรือสิ่งของอื่นแทนกันได้ แต่ไม่ต้องใช้ธูปเทียนและดอกไม้แล้ว

5.2 ขันหมากโท

เป็นขันหมากที่ทำหน้าที่เป็นบริวารของขันหมากเอก ประกอบด้วย

  • พานอาหารมงคลที่เกี่ยวข้องกับพิธีแต่งงาน ได้แก่ ไก่ต้มนอนตอง, พานหมูนอนตอง, พานวุ้นเส้น, พานส้มโอ, พานชมพูเพชร, พานกล้วยหอม, พานมะพร้าว และพานคู่ขนมเปี๊ยะ (อย่างละ 1 คู่)
  • พานขนมมงคล มีขนมทั้งหมด 9 ชนิด (จำนวน 2 พาน) ประกอบด้วยขนมชั้น, ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, เม็ดขนุน, ทองเอก, ถ้วยฟู, จ่ามงกุฎ และเสน่ห์จันทร์
  • พานเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
  • พานใส่ต้นกล้วย 1 คู่ และต้นอ้อย 1 คู่ เชื่อกันว่าเมื่อบ่าวสาวปลูกกินผลไม้จาก 2 ต้นนี้จะช่วยให้ทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรืองในชีวิต มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง
  • พานเชิญขันหมาก 1 พาน (สำหรับเจ้าสาว) เพื่อเชิญขันหมากของเจ้าบ่าวเข้าสู่ประตูเงิน ประตูทอง ภายในพานประกอบด้วยมวนหมากพลู ส่วนคนที่ถือพานประเภทนี้จะต้องเป็นเด็กผู้หญิงที่มาจากฝั่งเจ้าสาว

6. สายกั้นประตู

สำหรับพิธีกั้นประตูเงินประตูทองจะอยู่ในช่วงหลังจากเจ้าบ่าวยกขบวนขันหมากมาถึงหน้าบ้านเจ้าสาวแล้ว ประตูเงินประตูทองถือเป็นประตูมงคลที่กั้นเจ้าบ่าวก่อนที่จะมาถึงประตูวิวาห์ ส่วนวัสดุทำสายกั้นประตูมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบพวงมาลัยดอกไม้สด ทำจากดอกรัก, แบบใบไม้เคลือบ ทำจากใบไม้ ดอกไม้ และกิ่งไม้, เถาวัลย์รัสติก ทำจากดอกไม้ เป็นต้น

7. อุปกรณ์สำหรับรดน้ำสังข์

  • ชุดตั่งรดน้ำสังข์ ประกอบด้วยเก้าอี้นั่ง 2 ตัว, โต๊ะวางพานรับน้ำสังข์ 2 ตัว, โต๊ะวางมือ 2 ตัว และโต๊ะวางอุปกรณ์ 1 ตัว
  • แป้งเจิม สำหรับเจิมหน้าผากคู่บ่าวสาว
  • หมอนรองมือ สำหรับรองมือและแขน
  • มงคลแฝด สำหรับศีรษะคู่บ่าวสาว
  • พวงมาลัยบ่าวสาว (ส่วนใหญ่ใช้มาลัยสองชาย) สำหรับคล้องคอคู่บ่าวสาว
  • พานรับน้ำสังข์ สำหรับรองรับน้ำสังข์ที่ไหลจากมือคู่บ่าวสาว
  • พานวางหอยสังข์และพานรับน้ำสังข์

8. แหวนแต่งงาน

ของแต่งงาน

แม้ว่าหลายคนจะสวมแหวนเพียงวันงานอย่างเดียว แต่มีอีกหลายคนที่สวมใส่แหวนตลอดเวลา ดังนั้นการเลือกซื้อแหวนแต่งงานที่เหมาะสมควรเลือกตั้งแต่ช่วง 6 – 9 เดือนก่อนถึงวันแต่งงาน เพราะนอกจากจะป้องกันความวุ่นวายก่อนวันจัดงานแล้ว ยังช่วยให้คุณและคู่มีเวลาเลือกแหวนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองด้วย ซึ่งรายละเอียดในการเลือกแหวนแต่งงานทั้งของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงนั้นมีหลักการเลือกที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

8.1 เลือกจากลักษณะนิ้ว

โดยแบ่งออกเป็น 5 แบบ ดังนี้

  • นิ้วมือสั้น ควรเลือกแหวนที่มีก้านเล็ก อาจใช้หัวแหวนทรงหยดน้ำ, หัวใจ หรือวงรี ทั้งนี้ไม่ควรเลือกแหวนที่มีก้านหนาและมีหัวแหวนกลมหรือเหลี่ยมซึ่งจะทำให้นิ้วดูสั้นกว่าเดิม
  • นิ้วยาว ควรเลือกแหวนที่มีก้านแหวนหนาและเน้นหัวแหวนขนาดใหญ่ แต่ไม่ควรเลือกแหวนที่มีก้านบาง หรือมีหัวแหวนเล็ก ทำให้นิ้วดูยาวเกินไป
  • นิ้วกลม ควรเลือกแหวนที่มีก้านหนาพอดี แต่ไม่ควรเลือกหัวกลม เพราะจะทำให้นิ้วดูกลมกว่าเดิม
  • ข้อนิ้วใหญ่ ควรเลือกแหวนที่มีก้านแหวนขนาดไม่ต่ำกว่า 1 ซม. ขึ้นไป เน้นหัวแหวนใหญ่ แซมด้วยเพชรเม็ดเล็กล้อมรอบ หรืออาจเลือกก้านที่มีลวดลาย ทั้งนี้ไม่ควรเลือกแหวนที่ก้านบางเกินไป เพราะจะทำให้ข้อนิ้วดูใหญ่ขึ้น

8.2 เลือกจากตัวเรือน

  • ทองคำแท้ (Gold) ตัวเรือนส่วนใหญ่มักทำจากทองคำ 75 – 80% ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน เพื่อให้ทองแข็งแรงพอที่จะยึดเกาะเพชรและพลอย
  • ทองคำขาว (White gold) หรือ ไวท์โกลด์ ผลิตขึ้นจากการนำทอง 18K (ทองคำ 75%) ผสมอัลลอยเพื่อเพิ่มความขาวและชุบขาวให้สวยงามยิ่งขึ้น ทองคำขาวขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและส่องประกายได้ดีคล้ายแพลทินัม แต่มีราคาที่ถูกกว่า
  • พิงค์โกลด์ (Pink Gold) เกิดจากทองคำ 18K ผสมกับอัลลอยสีออกทองแดง
  • แพลทินัม (Platinum) เป็นโลหะที่มีจุดเด่นในเรื่องของความทนทานและปราศจากส่วนผสมของทองคำ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายผิวแก่ผู้สวมใส่

8.3 เลือกจากรูปทรงและความหมาย

  • เพชรทรงกลม (Round Brilliant Cut Diamond) เป็นทรงเพชรยอดนิยมเนื่องจากมีหน้าเพชรมากถึง 58 ด้าน สะท้อนแสงไฟได้ดี ส่งผลให้เพชรดูโดดเด่นมีประกาย เราขอแนะนำให้เลือกเพชรเจียระไนระดับ 3 Excellence หรือ Very Good เพื่อเสริมให้เพชรสวยยิ่งขึ้น ความหมายของเพชรทรงกลมสื่อถึงความรักอันเป็นนิรันดร์

ของแต่งงาน

  • เพชรทรงไข่ (Oval Cut Diamond) เป็นเพชรทรงวงรี ตัวเพชรจึงดูใหญ่กว่าเพชรทรงอื่น แถมยังส่องได้ประกายไฟสวยงามไม่แพ้ทรงอื่นอีกด้วย เราขอแนะนำให้เลือกเพชรสีขาวเพื่อเพิ่มออร่าของเพชรให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ความหมายของเพชรทรงไข่สื่อถึงความน่าทะนุถนอม

ของแต่งงาน

  • เพชรทรงมาร์คีส์ (Marquise Diamond) มีรูปทรงคล้ายเมล็ดข้าว เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการประหยัดงบ แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่การเลือกแบบให้เหมาะกับเพชรทรงนี้ยากพอควร ความหมายของเพชรทรงมาร์คีส์สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง

แหวนแต่งงาน

  • เพชรทรงหัวใจ (Heart Cut Diamond) โดยทั่วไปจะมีสัดส่วนสมมาตรกันทั้งซ้าย-ขวา แนะนำให้เลือกตัวเรือนฝังหนามเตย 3 หนาม เพื่อเน้นส่วนขอบของหัวใจให้เด่นยิ่งขึ้น ความหมายของเพชรทรงหัวใจสื่อถึงความรัก ความปรารถนาดี และความชื่นมื่นในชีวิตคู่
  • เพชรทรงหยดน้ำ (Pear Shaped Diamond) เป็นรูปทรงที่ผสมผสานระหว่างความกลมมนและมีปลายแหลม ด้วยวิธีเจียระไนแบบ Brilliant Cut จึงทำให้เพชรมีหน้ากว้างหากเทียบกับทรงอื่น ส่วนใหญ่จะเน้นปลายแหลมชี้เข้าตัวเพื่อหันมายังหัวใจของผู้สวมใส่ สื่อถึงความรักอันหนักแน่น
  • เพชรสามเหลี่ยม (Trillion Cut Diamond) จุดเด่นอยู่ที่ความกว้างของหน้าเพชรสามเหลี่ยมที่ทำให้เพชรทรงนี้ดูใหญ่กว่าเพชรทรงอื่น เหมาะสำหรับประดับเพชรเม็ดหลักในแหวนเพชรแต่งงาน หรือใช้ตกแต่งส่วนรอบของเพชรเม็ดใหญ่ เราขอแนะนำให้เลือกแบบที่มีหนามเตย 3 มุม เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนแหลมของเพชรไปสัมผัสสิ่งต่าง ๆ จนเกิดรอย ความหมายของเพชรทรงสามเหลี่ยมสื่อถึงพลังอำนาจและความรัก
  • เพชรทรงสี่เหลี่ยม (Princess Cut Diamond) เป็นเพชรทรงสี่เหลี่ยมที่สามารถเล่นไฟได้ดี เราขอแนะนำให้ฝังหนามเตยลงบนตัวเรือนทั้ง 4 ด้าน เพื่อการเล่นไฟที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ความหมายของเพชรทรงสี่เหลี่ยมสื่อถึงความสง่างาม เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

ของแต่งงาน

  • เพชรทรงเอมเมอรัล (Emerald Cut Diamond) เป็นทรงที่เด่นเรื่องพื้นที่หน้าเพชรกว้าง ช่วยรับแสงไฟเพื่อสะท้อนกับเส้นตรงภายในที่เจียระไนได้ดี เราขอแนะนำให้เลือกความสะอาดของเพชร (Clarity) ไม่ต่ำกว่า VS2 เพื่อกลบตำหนิของเพชรบนหน้าเพชร ความหมายของเพชรทรงเอมเมอรัลสื่อถึงความสงบสุข

ของแต่งงาน

  • เพชรทรงสี่เหลี่ยมขอบมน (Cushion Cut Diamond) มีจุดเด่นอยู่ที่การเจียระไนซึ่งผสมระหว่างการเจียระไนแบบเพชรกลมและแบบเพชรเอมเมอรัล จึงเล่นไฟได้ดี เราขอแนะนำให้เลือกแบบลึกและมีหน้ากว้างไม่เกิน 70% ความหมายของเพชรทรงสี่เหลี่ยมขอบมนสื่อถึงความรัก ความสวยงาม และช่วยเสริมความมั่นใจให้คุณผู้หญิงได้ดี
  • เพชรทรงแอชเชอร์ (Asscher Cut Diamond) เป็นเพชรที่มีขั้นบันไดลึกกว่าเอมเมอรัลคัท ช่วยให้เล่นไฟได้โดดเด่น เราขอแนะนำให้เลือกสีที่สูงกว่า H และความสะอาดที่สูงกว่า VS เพื่อให้ได้เพชรน้ำงามยิ่งขึ้น เชื่อกันว่าเพชรทรงแอชเชอร์จะช่วยเสริมดวงความรักของคุณและคู่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ทำไมใครหลายคนถึงไว้วางใจ Irin Gems

ทางเรา ไอรินทร์เจมส์ เป็นร้านพลอยแท้, เพชรแท้ รวมถึงเครื่องประดับและของหลุดจำนำที่มีตัวตนมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ทางเราไม่ใช่ร้านที่ไปรับของที่อื่นมาขายเพียงอย่างเดียว แต่เรามีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง จึงควบคุมกระบวนการผลิตเองทุกขั้นตอนและแบ่งกระจายสินค้าสู่ตลาดเครื่องประดับไทย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราสามารถดูแลเครื่องประดับที่มาจากร้านเพชรร้านทองอื่นได้ดีเหมือนเป็นสินค้าของร้านเราเอง

เราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการ jewelry one stop service ตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

แชร์บทความ

คุณน่าจะสนใจ

Line

Your cart

No products in the cart.