
ทำไมทองถึงมีราคาแพง ขั้นตอนการทำทองแบบต่าง ๆ มีอะไรบ้าง
เนื่องด้วยราคาทองที่สูงขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจทำให้ใครหลายคนหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนทองคำมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการซื้อทองในรูปแบบของทองรูปพรรณเพื่อสวมใส่ในโอกาสต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ว่าแต่ทำไมราคาทองถึงแพงขึ้นเรื่อย ๆ มีกรรมวิธีในการผลิตอย่างไรบ้าง วันนี้ไอรินทร์เจมส์จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ขั้นตอนการทำทองมีกี่แบบ อะไรบ้าง
มี 2 แบบ ตามประเภทของทอง ได้แก่ การทำทองคำแท่ง และการทำทองรูปพรรณ โดยมีขั้นตอนที่แตกต่างกันดังนี้
1. การทำทองคำแท่ง
- นำทอง 49 หรือทองคำ 99.99% ที่นำเข้าจากต่างประเทศมาใช้ไฟหลอมจนถึงจุดหลอมละลาย
- นำทองที่หลอมละลายแล้วเทใส่เบ้าจนได้เป็นทองคำแท่ง
- ช่างจะนำทองมารีดเพื่อให้น้ำหนักและเบอร์ตรงตามสูตรของร้านทองที่สั่งทำเข้ามา
- เมื่อได้สัดส่วนที่ต้องการแล้วช่างจะนำทองมาขึ้นรูปโดยการนำทองคำแท่งที่ผ่านการรีดแล้วมาตัดและปั๊มให้ได้ขนาดตามแม่พิมพ์
- ช่างจะขูดพื้นผิวบางส่วนเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามและมีน้ำหนักที่ต้องการ
- ขั้นตอนสุดท้ายช่างจะขัดเงาทองคำแท่งให้สวยงาม พร้อมขาย
2. การทำทองรูปพรรณ
- นำทองคำแท่งมารีดเป็นซี่ตามรูปแบบและลวดลายที่ร้านทองต้องการ
- ขณะรีดทอง ช่างทองจะนำทองไปเผาไฟเพื่อให้ทองนิ่มแล้วค่อยนำมารีดใหม่จนกว่าจะได้ขนาดที่ต้องการ เพราะถ้าไม่เผาไฟแล้วรีดทองเพียงอย่างเดียวอาจทำให้ทองแข็งตัวและรีดยากขึ้น
- หลังจากรีดเป็นเบอร์ที่ต้องการแล้วจะนำไปชักลวดตามไซส์ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับลวดลายที่ร้านทองต้องการ
- นำทองที่รีดได้มาแกะสลักลายมาแกะสลักให้ได้ลวดลายที่ต้องการ โดยจะต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์ยาวนาน (อย่างต่ำ 3-4 ปี)
- นำทองที่ได้มาเชื่อมรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะหากใช้ระดับไฟและเลือกช่วงเวลาที่ควรเชื่อมไม่เหมาะสม อาจทำให้ทองรูปพรรณที่ได้ไม่สวยงามตามมาตรฐานและกลายเป็นของเสีย ซึ่งจะต้องนำไปหลอมใหม่อีกรอบ โดยสิ่งที่ใช้เชื่อมทองเข้าด้วยกันคือน้ำประสานทอง ซึ่งเป็นทองคำที่มีส่วนผสมของทองเล็กน้อย หากใช้น้ำประสานทองเชื่อมทองได้ไม่ดี ไปโดนส่วนที่ไม่ควรโดน จะทำให้คุณภาพของทองต่ำลง
- ต่อมาเป็นขั้นตอนของการวัดขนาดและต้มสี โดยช่างจะนำทองไปต้มกับดินประสิว ล้างน้ำกรด และขัดสีของทองให้แวววาว
- สำหรับระยะเวลาในการผลิตทองรูปพรรณแต่ละชิ้นจะอยูที่ประมาณ 3 วัน
**ทั้งนี้ช่างทองจะต้องทำไปชั่งน้ำหนักทองไปเสมอ เพราะหากน้ำหนักหายไปในระหว่างขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งก็จะทำให้ไม่สามารถทำขั้นตอนต่อไปได้และต้องเริ่มต้มใหม่ทั้งหมด**
ทำไมทองถึงมีมูลค่าสูง
จากการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์พบว่าทองคำอาจไม่ได้เกิดถือเกิดขึ้นมาบนโลก แต่อาจติดมาจากอุกกาบาตหรือมาจากแรงระเบิดมหาศาลที่เกิดขึ้นในจักรวาลเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว ดังนั้นปริมาณทองทั่วโลกจึงมีจำนวนน้อยมากโดยคาดว่าจะมีจำนวน 190,000 ตัน หรือเท่ากับสระโอลิมปิกเพียง 3 สระเท่านั้น นั่นหมายความว่าทองเป็นแร่ธาตุที่มีอย่างจำกัด และด้วยความที่ทองมีสีที่แวววาว ดูเป็นของหรูหรา จึงทำให้คนสมัยโบราณนิยมเก็บทองสะสมเอาไว้ จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าในยุควัฒนธรรมเมโสโปเตเมียมีการนำทองคำมาทำเป็นเครื่องประดับเมื่อ 4,600 ปีก่อน ก่อนที่จะขยายไปยังอาณาจักรอื่น ๆ เรื่อยมา ส่งผลให้ผู้คนให้คุณค่าและความสำคัญกับทองมากขึ้น จนนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าในช่วง 2,000 ปีต่อมา โดยมีอาณาจักรลิเดีย (Lydia) เป็นอาณาจักรแรกที่มีการใช้เหรียญทองคำเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ใช้เป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับการยอมรับจากทุกอาณาจักรในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
และเนื่องจากทองมีคุณสมบัติ 3 ประการ ได้แก่ ทองคำสามารถแปรสภาพได้ แตกต่างจากแร่ธาตุอื่นที่มีความแวววาวเหมือนกันแต่แปรสภาพไม่ได้ สามารถหลอมให้มีขนาดเล็กและพกไปใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศได้ง่าย, ทองมีความหายากแต่ใช้งานง่าย แตกต่างจากแพลทินัมที่มีความแวววาวแต่สกัดออกมาใช้ยาก และที่สำคัญทองยังมีความเฉื่อยต่อปฏิกิริยาต่าง ๆ ได้ยาก มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ สูง หากเปลี่ยนสภาพเป็นสิ่งของรูปแบบหนึ่งแล้ว ต่อให้ผ่านไปพันปีก็ยังสามารถหลอมเป็นสิ่งของอีกแบบหนึ่งได้เช่นกัน จึงทำให้ทองคำเป็นสิ่งที่ทุกคนทั่วโลกยอมรับ แม้ว่าในเวลาต่อมาจะมีการใช้ธนบัตรแทนทองคำแล้วก็ตาม แต่ทั่วโลกได้มีการกำหนดกติกาเอาไว้ว่าจะต้องมีทองคำเก็บไว้เป็นสินทรัพย์สำรองในคลังของประเทศนั้น ๆ ก่อนจึงจะสามารถพิมพ์ธนบัตรออกมาสู่ระบบได้
นอกจากจะเป็นสินทรัพย์ทางการเงินแล้ว ทองคำยังถูกนำไปใช้เป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทันตกรรม เครื่องประดับแฟชั่น และอื่น ๆ อีกมาก รวมถึงเป็นสินทรัพย์ที่ผูกขาดกับเรื่องความเชื่อในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย ผู้คนเชื่อกันว่าทองคำเป็นสิ่งมงคลที่หากนำมาทำเป็นเครื่องประดับหรือมีติดไว้ในบ้านก็จะช่วยให้ผู้สวมใส่พบเจอแต่สิ่งดี ๆ เป็นสิริมงคลในชีวิตอีกด้วยค่ะ เมื่อถึงช่วงเทศกาลสำคัญอย่างปีใหม่หรือตรุษจีนก็จะมีผู้คนจำนวนมากซื้อทองเอาไปฝากคนในครอบครัวหรือญาติผู้ใหญ่ ส่งผลให้ทองคำเป็นที่ต้องการของหลาย ๆ อุตสาหกรรมในตลาดโลกมาจนถึงปัจจุบัน
ทำไมทองถึงแพงขึ้น
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน, สงครามอิสราเอล-ฮามาส, ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ย, ธนาคารกลางหลาย ๆ ประเทศกว้านซื้อทองคำเพื่อเป็นเงินสำรองที่เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวน, อัตราดอกเบี้ยจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการนำเข้า-ส่งออกทองคำ, ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว และอื่น ๆ อีกมาก ส่งผลให้ราคาทองแพงขึ้น โดยราคาทองในปี 2567 นี้มีราคาที่สูงขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ที่มีราคารับซื้อบาทละ 33,550 บาท และราคาขายบาทละ 33,650 บาท ขึ้นมาเป็นราคารับซื้อบาทละ 40,550 บาท และราคาขายบาทละ 40,650 บาท
สุดท้ายนี้แม้ว่าทองจะเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ แต่หากคุณไม่ทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายทองมาเป็นอย่างดี หรือไม่เลือกร้านที่ซื้อทองรูปพรรณ เลือกร้านเพียงเพราะว่าเดินทางสะดวกหรือมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพียงอย่างเดียว ก็อาจเสี่ยงต่อการถูกย้อมแมวขายได้ง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
- 5 ข้อดีของสร้อยทองหลุดจำนำ ที่ใครหลายคนไม่ควรมองข้าม
- ตรวจทองปลอมที่ร้าน ดีไหม ค่าบริการเท่าไหร่ ตรวจได้กี่จุด เรามีคำตอบ
- เพิ่มความพิเศษให้แหวนวงโปรด ด้วยบริการเลเซอร์แหวนทอง
ซื้อทองหลุดจํานํา ที่ไหนดี ทำไมต้อง Irin Gems
Jewelry one stop service เป็นบริการจิวเวอร์รี่ที่เดียวที่ให้บริการดูแลเครื่องประดับในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขัด ล้าง ชุบ ออกแบบเครื่องประดับใหม่ ฝังพลอยฝังเพชร ฯลฯ เพราะเราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการดังกล่าวเพื่อตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ