แต่งงานทั้งที เลือกแหวนแต่งงานแบบไหนดี ถ้านึกไม่ออก เรามีคำแนะนำ
เลือกแหวนแต่งงานทั้งที ใคร ๆ ก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่หากคุณไปเดินดูแหวนตามร้านเพชรพลอยบนห้างแล้วแต่ยังลังเลหรือยังไม่เจอแหวนที่ถูกใจซะที ทั้ง ๆ ที่ใกล้จะแต่งงานแล้วด้วย วันนี้ไอรินทร์เจมส์จะมาแนะนำวิธีเลือกแหวนแต่งงานกันค่ะ
แต่งงานทั้งที เลือกแหวนแต่งงานแบบไหนดี
1. เลือกแหวนจากรูปลักษณ์
แน่นอนว่ารูปลักษณ์มีความสำคัญอันดับต้น ๆ เพราะเราสามารถุมองเห็นรูปลักษณ์ได้เป็นอย่างแรกโดยที่ไม่ต้องดูองค์ประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแหวนเลย หากมองผ่านแล้วทรงไม่ได้ ก็อาจทำให้คนมองแหวนเราแปลก ๆ และอาจลดความมั่นใจในการสวมแหวนแต่งงานได้ด้วยนะคะ
2. เลือกแหวนจากตัวเรือน
ตัวเรือนเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่มีผลต่อการสวมใส่แหวนโดยตรง โดยในปัจจุบันมีแร่ธาตุที่ใช้ในการผลิจตัวเรือนอยู่มากมาย แต่ที่แร่ยอดนิยมที่ผู้ผลิตนิยมใช้มี 5 ชนิด ได้แก่ ทองคำ ทองคำขาว เยลโลว์โกลด์ โรสโกลด์ และแพลทินัม โดยแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันดังนี้
- ทองคำ (Gold) เหมาะกับผู้ที่มีผิวสีน้ำผึ้งและผิวสีแทน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ด้วยความที่เป็นทองคำจึงปรับไซส์ง่ายแถมยังซ่อมง่ายอีกด้วย แต่ทั้งนี้อาจต้องระวังการเกิดรอยข่วนหรือเกิดรอยบุ๋มสักนิดนึงนะคะ เพราะทองคำมีคุณสมบัติอ่อนตัวง่าย และที่สำคัญคุณควรทำความสะอาดบ่อย ๆ เพื่อให้ทองยังคงความแวววาวอยู่เสมอ
- ทองคำขาว (White gold) เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาวและผิวขาวอมชมพู ข้อดีอยู่ที่ความทนทานต่อการใช้งานที่มากกว่าทองคำ แต่เนื่องจากมีส่วนผสมนิกเกิลจึงอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย และหากต้องการให้ทองคำขาวแวววาวอยู่เสมอก็ต้องชุบโรเดียมเป็นประจำทุก 3-4 ปี
- เยลโลว์โกลด์ (Yellow gold) เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ด้วยความที่มีเนื้อนิ่มกว่าจึงปรับไซส์ได้ง่าย ดูแลทำความสะอาดง่าย แถมยังแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้เยลโลว์โกลด์ยังเป็นที่นิยมในหมู่เครื่องประดับวินเทจหรือเครื่องประดับในหมู่วัยรุ่นมากขึ่นเนื่องจากมีสีทองธรรมชาตินั่นเอง
- โรสโกลด์ (Rose Gold) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแหวนที่มีสีสันสวยงามและดูทันสมัยไปในตัว แถมยังดูแลรักษาง่ายกว่าทอง ส่วนความทนทานนั้นมีมากกว่าทองและทองคำขาวเนื่องจากมีส่วนผสมของทองแดง และที่สำคัญมีราคาถูกกว่าและเหมาะกับทุกสีผิวอีกด้วย
- แพลทินัม (Platinum) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแหวนสีเงินหรือสีขาว ข้อดีคือทนทานต่อการใช้งานสูง สีไม่ลอกเหมือนทองคำขาว ช่วยยึดเกาะหนามเตยที่ใช้ประคองเพชรได้ดีกว่าแร่ธาตุอื่น หากเกิดรอยขีดข่วนก็ยังคงสีขาวอมเทาได้ดีเพียงแต่ความมันเงาจะลดลงจึงต้องขัดถูบ่อย ๆ และปรับไซส์ยาก
3. เลือกจากคุณภาพเพชร
ต้องเข้าใจก่อนว่าการซื้อแหวนเพชรวงนึง เราจะคำนวณจากหลายปัจจัย ได้แก่ น้ำหนัก สี ความสะอาด โดยหน่วยวัดน้ำหนักของเพชรเราจะเรียกว่า กะรัต หรือ CT โดยแหวนเพชรที่วางจำหน่ายจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 0.2 CT ไปจนถึง 3.0 CT สำหรับน้ำหนักยอดนิยมจะเป็น 0.2-1.0 CT เนื่องจากเป็นน้ำหนักที่สวมใส่สบาย ไม่ใหญ่จนดูเทอะทะ ส่วนสีของเพชรเราจะเรียกว่าน้ำ โดยสียอดนิยมจะอยู่ที่น้ำ 96-100 และสีที่นิยมมากที่สุดจะเป็นเพชรน้ำ 100 ซึ่งเป็นเพชรไร้สี ไม่มีสีเหลืองปะปน และยิ่งถ้าเพชรสะอาด ไร้ตำหนิก็ยิ่งมีราคาสูงไปด้วย โดยเกณฑ์การวัดระดับความสะอาดของเพชรจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด ตั้งแต่ IF ไปจนถึง I3 ส่วนราคาของเพชรจะอยู่ที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านค่ะ
4. เลือกรูปทรงของเพชร
รูปทรงของเพชรในปัจจุบันมีทั้งหมด 10 ประเภท ได้แก่ เพชรทรงกลม (Round Brilliant Cut Diamond), เพชรทรงไข่ (Oval Cut Diamond), เพชรทรงมาร์คีส์ (Marquise Diamond), เพชรทรงหัวใจ (Heart Cut Diamond), เพชรทรงหยดน้ำ (Pear Shaped Diamond), เพชรทรงสี่เหลี่ยม (Princess Cut Diamond), เพชรทรงเอมเมอรัล (Emerald Cut Diamond), เพชรทรงสี่เหลี่ยมขอบมน (Cushion Cut Diamond), เพชรทรงแอชเชอร์ (Asscher Cut Diamond) และเพชรสามเหลี่ยม (Trillion Cut Diamond) แต่ทรงยอดนิยมมากที่สุดจะเป็นเพชรทรงกลมที่ผ่านการเจียระไนมาแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ตัวเพชรเล่นแสงได้ดี ส่องไฟแล้วเป็นประกาย
5. เลือกจากใบเซอร์เพชร
โดยทั่วไปแล้วร้านขายเครื่องประดับชั้นนำจะมอบใบเซอร์เพชรแถมให้แก่ผู้ที่ซื้อแหวนเพชรอยู่แล้ว เนื่องจากใบเซอร์เป็นใบที่การันตีว่าเพชรที่คุณได้ไปเป็นเพชรแท้ที่มีคุณสมบัติที่ได้มาตรฐานตามสถาบันเพชร โดยใบเซอร์เพชรจะออกโดยสถาบันเพชรชั้นนำอย่าง GIA (Gemological Institute of America), HRD (HRD Antwerp) และ IGI ( International Gemological Institute)
6. ตั้งงบประมาณ
ในปัจจุบันมีแหวนแต่งงานสำเร็จรูปตามร้านเครื่องประดับชั้นนำมากมาย จึงทำให้คู่บ่าวสาวมีรูปแบบแหวนให้เลือกดูมากมาย แม้จะดูเหมือนเป็นข้อดีแต่จริง ๆ แล้วแหวนมีหลากหลายราคา มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน ดังนั้นสิ่งที่คุณทั้งคู่ควรทำคือเลือกแหวนที่มีราคาเหมาะสมกับการเงินของตัวเองมากที่สุด อย่าลืมนะคะว่าการแต่งงานไม่ได้มีแค่การสวมแหวนแต่งงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีค่าเช่าสถานที่ ข้าวของเครื่องใช้สำหรับประดับตกแต่งภายในงาน ค่าอาหาร ค่าแต่งหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวและอื่น ๆ อีกมาก สำหรับราคาแหวนแต่งงานที่เหมาะสมนั้นเราจะคำนวณจากรายได้ทั้งหมดต่อเดือนของทั้ง 2 คน ลบกับรายจ่ายทั้งหมดต่อเดือนของทั้ง 2 คน แล้วคูณด้วย 12 (จำนวนเดือน) หรือหากคุณต้องการแหวน ยกตัวอย่างเช่น รายได้รวม 60,000-20,000 = 40,000 แล้ว * 12 = 480,000 บาทค่ะ แต่หากคุณทั้งคู่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องราคาก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
- ตลาดพลอย ตอนนี้เป็นอย่างไร ทำไมถึงน่าซื้อขายเก็งกำไร
- ของหลุดจำนำ สภาพดี มีจริงมั้ย เลือกซื้ออย่างไรไม่ให้โดนหลอก
- ซื้อของหลุดจำนำออนไลน์จาก Irin gems ดีอย่างไร
ซื้อที่ไหนดี ทำไมต้อง Irin Gems
Jewelry one stop service เป็นบริการจิวเวอร์รี่ที่เดียวที่ให้บริการดูแลเครื่องประดับในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขัด ล้าง ชุบ ออกแบบเครื่องประดับใหม่ ฝังพลอยฝังเพชร ฯลฯ เพราะเราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการดังกล่าวเพื่อตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ