ซื้อสินค้าหลุดจำนำทุกครั้ง อย่าลืมหลักการง่าย ๆ ต่อไปนี้
การซื้อสินค้าหลุดจำนำอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน เพราะนอกจากจะต้องรู้เรทราคาเบื้องต้นของสินค้าที่เราจะซื้อแล้วยังต้องเลือกของดี ๆ อีกด้วย แล้วรู้หรือไม่ว่าต้องเลือกอย่างไรถึงจะได้ของดีกับเราจริง ๆ วันนี้เรามีหลักการเลือกง่าย ๆ มาฝากทุกคนค่ะ
ข้อควรรู้ก่อนซื้อสินค้าหลุดจำนำ
ในที่นี้เราจะขอแบ่งประเภทของสิ่งที่คุณควรรู้ออกเป็น 2 ประเภท เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ได้แก่ ข้อมูลของร้านขายของหลุดจำนำที่เราจะทำการซื้อ-ขาย และข้อมูลของเครื่องประดับที่เรากำลังจะซื้อ
1. ข้อมูลของร้านขายของหลุดจำนำ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เริ่มให้ความสนใจกับสินค้าหลุดจำนำหรือเริ่มเข้าสู่วงการนี้ได้ไม่นาน สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรก คือการทำความรู้จักกับร้านขายของหลุดจำนำหลาย ๆ ร้าน ในช่วงแรกแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับร้านขายของหลุดจำนำที่มีชื่อเสียงก่อน เพื่อให้เรารู้ว่าร้านเหล่านี้มีหลักการซื้อ-ขายอย่างไร มีสินค้าประเภทไหนวางจำหน่ายบ้าง ราคาแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อ-ขายสินค้าหลุดจำนำ หลังจากเลือกมาได้หลายร้านแล้ว แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลร้านที่เลือกมาจากเว็บไซต์ Google ว่าร้านเหล่านี้มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ เนื่องจากร้านที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่เปิดทำการมาเป็นเวลานาน จึงมีหลักฐานและประสบการณ์การซื้อ-ขายของหลุดจำนำที่เชื่อถือได้
แต่หากคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับสินค้าหลุดจำนำมาก่อน แนะนำให้ลองหารีวิวของร้านเหล่านั้นว่าไปในทิศทางไหนบ้าง หากมีผู้ใช้บริการพูดถึงบริการก่อนหรือหลังการขายไปในทิศทางลบ ให้ตัดร้านนั้นออกไปเลยค่ะ ส่วนร้านไหนที่มีรีวิวดีก็ควรเก็บร้านเหล่านั้นไว้ก่อน จากนั้นค่อยมาดูอีกทีว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพราะบางร้านอาจสร้างรีวิวปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกลูกค้าหน้าใหม่ให้หลงกล ทางเราแนะนำให้สังเกตการใช้ภาษาในรีวิว เนื่องจากเว็บไซต์ต่างประเทศจำนวนมากใช้โปรแกรม Google Translate เขียนรีวิวปลอมขึ้นมา หากคุณคิดจะเลือกซื้อสินค้าหลุดจำนำจากช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง Lazada หรือ Shopee อาจต้องสังเกตการใช้ภาษาของแต่ละรีวิวด้วยว่าใช้คำแปลก ๆ หรือไม่, อ่านแล้วเหมือนประโยคที่เราใช้กันรึเปล่า หากอ่านแล้วทะแม่ง ๆ ให้ตัดร้านนั้นออกจากตัวเลือกของเราไปได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ทางเราขอแนะนำให้ทักไปพูดคุยกับทางร้านโดยตรง เพื่อให้ทางร้านแนะนำวิธีการเลือกซื้อสินค้าหลุดจำนำให้เราจะดีที่สุด เพราะต่อให้คุณจะทำการบ้านมามากแค่ไหนก็ตาม แต่ข้อมูลบางอย่างก็ไม่สามารถหาได้จากอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียวเนื่องจากไม่ได้มีประสบการณ์โดยตรง ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาอธิบายให้ฟัง หากคุณมีร้านที่สนใจ แนะนำให้ลองทักไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางร้านได้เลย เราขอแนะนำให้เลือกร้านที่สามารถตอบทุกข้อสงสัยของเราได้อย่างชัดเจน สื่อสารเข้าใจง่าย เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะมีทักษะและประสบการณ์ซื้อ-ขายมากกว่าคนทั่วไป หากร้านสื่อสารกับเราไม่เข้าใจ อาจทำให้เกิดความผิดพลาดระหว่างซื้อ-ขายได้ และที่สำคัญควรเลือกร้านที่มีช่องทางการติดต่อหลากหลาย เพื่อความสะดวกในการซื้อขายของคุณ ไม่ว่าจะเป็นทางเบอร์โทรศัพท์และช่องทางติดต่อออนไลน์ ได้แก่ Facebook, Instagram, Line และ Youtube
อย่าลืมนะคะพอถึงเวลาซื้อ-ขายจริง ๆ คุณอาจเจอของที่ถูกใจมากกว่า 1 ชิ้น แถมร้านขายของหลุดจำนำแต่ละร้านมีระยะเวลาในการดำเนินการแตกต่างกัน ทางเราขอแนะนำให้เลือกร้านที่คุณสะดวกต่อการเดินทาง นอกจากจะช่วยกำหนดเวลาเดินทางได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้กำหนดเวลาเลือกซื้อสินค้าจากทางร้านได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้คุณไม่เสียเวลาหากต้องการทำธุระอย่างอื่นหลังจากซื้อ-ขายเสร็จ โดยร้านเหล่านี้จะต้องอยู่ใกล้แลนด์มาร์กที่คุณรู้จัก หรืออยู่ในเส้นทางรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่านก็จะเป็นทางเลือกที่สะดวกต่อคุณไม่น้อย
2. ศึกษาข้อมูลเครื่องประดับอัญมณีมาให้ดี
นอกจากเลือกร้านที่ถูกใจแล้ว การรู้วิธีเลือกเครื่องประดับอัญมณีก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน แม้ว่าร้านขายของหลุดจำนำจะนำสินค้าได้คุณภาพมาขายก็ตาม แต่หากคุณต้องการซื้อเครื่องประดับอัญมณีสำหรับลงทุนเก็งกำไร อาจต้องสังเกตอัญมณีเหล่านั้นด้วยว่าเป็นของแท้หรือของปลอม โดยเรามีวิธีสังเกตง่าย ๆ ตามประเภทของเครื่องประดับอัญมณีที่วางจำหน่ายทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ เครื่องประดับเพชร, เครื่องประดับพลอย, เครื่องประดับทอง และเครื่องประดับมุก
2.1 เครื่องประดับเพชร
- ชั่งน้ำหนัก นำเพชรแท้อีกเม็ดหนึ่งมาชั่งแล้วดูว่าเพชรที่เราถือมีน้ำหนักเท่ากันหรือไม่ เนื่องจากน้ำหนักของเพชรปลอมมีมากกว่าเพชรแท้ประมาณ ½ เท่า
- ไอหมอก หายใจรดใส่เพชร หากเป็นเพชรแท้จะไม่มีไอน้ำเกาะติดบนเพชร หรือถ้ามีก็จะหายไปภายในไม่กี่วินาที หากเป็นเพชรปลอมจะมีไอน้ำเกาะค้างเป็นเวลา 2 – 3 นาที
- มองด้วยสายตา คว่ำหน้าเพชรลงบนกระดาษที่มีตัวหนังสือ หากมองไม่เห็นตัวหนังสือแสดงว่าเป็นเพชรแท้ เพราะเพชรแท้มีลักษณะการหักเหเป็นแบบเดี่ยว ส่วนเพชรปลอมมีการหักเหแบบคู่จึงมองเห็นตัวหนังสือได้ตามปกติ
- แว่นขยาย loupe ใช้ loupe หรือกล้องส่องพระส่องดูเหลี่ยมจากการเจียระไน หากพบเหลี่ยมคมและไม่มีรอยขูดขีดก็คือเพชรแท้ แต่หากมีรอยขีดข่วนและไม่มีเหลี่ยมคม แสดงว่าเป็นของปลอม
- แสงสะท้อนของเพชร หากพบแสงสะท้อนสีเทาปนรุ้งออกมา แสดงว่าเป็นเพชรแท้ เนื่องจากเพชรแท้จะมีค่าการกระจายแสงสูง ต่างจากเพชรปลอมที่มีผิวด้าน เมื่อนำมาสะท้อนแสงจึงไม่มีความแวววาวแม้แต่น้อย
- เครื่องทดสอบเพชร โดยทั่วไปทางร้านจะใช้เครื่องทดสอบเพชรเพื่อตรวจดูการนำกระแสไฟฟ้า หากจิ้มปลายเข็มลงบนเนื้อเพชรแล้วพบว่ามีไฟสเกล, มีเสียง หรือสัญลักษณ์เด้งขึ้นมาแสดงว่าเป็นเพชรแท้ เนื่องจากเพชรเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่นำความร้อนได้
- ใบเซอร์ฯ เพชร วิธีนี้ใช้ได้ในกรณีที่เป็นเครื่องประดับเพชรที่ทางร้านขายของหลุดจำนำซื้อมาจากร้านเพชรเท่านั้น โดยใบเซอร์ฯ เพชรจะเป็นตัวการันตีว่าเพชรเป็นของแท้ 100% เนื่องจากมีแผนภาพระบุตำแหน่งของเพชรว่ามีรูปทรงและสัดส่วนของเพชรเป็นอย่างไร, มี 4Cs ซึ่งเป็นลักษณะของเพชรที่ดี ได้แก่ Carat (กะรัต), Color (สี), Clarity (ความสะอาด) และ Cut (คุณภาพในการเจียระไน), เพชรมีตำหนิตรงไหน รวมถึงมีชื่อสถาบันของผู้ออกใบเซอร์อีกด้วย
2.2 เครื่องประดับพลอย
- น้ำหนัก หากเทียบน้ำหนักของพลอย 1 กะรัต แล้วพบว่าพลอยมีน้ำหนักประมาณ 200 มก. หรือลดลงจากเดิมไม่มาก แสดงว่าเป็นพลอยแท้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความสมบูรณ์ของเม็ดพลอย หากคุณเจอพลอยที่มีน้ำหนักหนักหรือเบามากกว่า 200 มก. พลอยชิ้นนั้นอาจเป็นของปลอมก็ได้ แนะนำให้ใช้วิธีอื่นประกอบการตัดสินใจด้วย
- ส่องในที่ร่ม เมื่อนำพลอยที่ได้มาส่องในที่ร่ม หากพบว่าเนื้อพลอยมีสีโทนเดียวกันทั้งหมด หรือนำไปส่องกับแสงอาทิตย์แล้วเห็นเป็น 7 สี แสดงว่าเป็นพลอยปลอม เพราะพลอยแท้จะมีโทนสีไม่เท่ากัน สีด้านหน้าของพลอยจะเข้มกว่าด้านข้าง หากส่องกับแสงอาทิตย์จะไม่เห็นเป็นสีรุ้ง
- ความสะอาดของพลอย หากพบรอยขีดข่วน รอยแตก หรือจุดดำในเนื้อพลอยเพียงเล็กน้อย อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นของปลอมนะคะ เนื่องจากรอยดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื่องจากเป็นพลอยที่ยังไม่ผ่านกระบวนการเผาเพื่อเจียระไนให้มีลวดลาย แต่หากเป็นพลอยปลอมจะไม่มีจุดด่างดำใด ๆ เพราะทำมาจากวัสดุสังเคราะห์หลายชนิด จึงมีคุณสมบัติทางฟิสิกส์กับเคมี ส่งผลให้เนื้อในพลอยสะอาดมาก
- ตำหนิพลอย หากนำกล้อง Loupe ส่องดูแล้วพบตำหนิข้างในพลอยเป็นรูปแบบต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็นตำหนิเส้นเข็ม เมื่อส่องแล้วจะเห็นเป็นเส้นเข็มสีรุ้งขนาดเล็กและใหญ่ผสมกัน หรือพบตำหนิฟิงเกอร์ปริ้นท์ (ตำหนิรูปรอยนิ้วมือ) พร้อมกับแถบสีหักมุมอยู่ภายในพลอย แสดงว่าเป็นของแท้แต่หากส่องแล้วพบแถบสีเป็นเส้นโค้ง, มีฟองอากาศข้างใน แสดงว่าเป็นของปลอม
- ใบเซอร์ฯ อัญมณี เนื่องจากร้านที่ได้มาตรฐานทุกร้านจะมีใบเซอร์ฯ อัญมณี ซึ่งเป็นใบที่บ่งบอกว่าพลอยชิ้นนี้มีคุณสมบัติต่าง ๆ ตรงตามมาตรฐานสากลและเป็นของแท้แน่นอน
2.3 เครื่องประดับทอง
- ชั่งน้ำหนักทอง หากคุณมีทองคำแท้ที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกับทองที่คุณกำลังจะซื้อ หรือจำน้ำหนักของทองแต่ละขนาดได้ แนะนำให้ถือทองแต่ละชิ้นไว้ที่มือคนละข้าง ถ้าข้างใดมีน้ำหนักมากกว่า แสดงว่าเป็นทองปลอมแน่นอน เนื่องจากมีส่วนผสมอื่นปะปนอยู่ จำไว้เลยว่า ต่อให้เป็นทองเส้นเล็กหรือใหญ่ แต่หากมีน้ำหนัก 1 บาท จะมีน้ำหนักเท่ากันเสมอ โดยทางสมาคมค้าทองคำได้กำหนดน้ำหนักทองรูปพรรณที่มีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 96.5% หรือ 23k แต่ละขนาด หากคุณยังไม่แน่ใจ แนะนำให้ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิทัลสำหรับทองคำแท้เพื่อวัดตามน้ำหนักมาตรฐาน ดังนี้
- ทองครึ่งสลึง น้ำหนักประมาณ 1.89 – 1.9 กรัม
- ทอง 1 สลึง น้ำหนักประมาณ 3.79 – 3.8 กรัม
- ทอง 2 สลึง น้ำหนักประมาณ 7.58 – 7.6 กรัม
- ทอง 3 สลึง น้ำหนักประมาณ 11.37 – 11.4 กรัม
- ทอง 1 บาท น้ำหนักประมาณ 15.16 – 15.2 กรัม
- ทอง 2 บาท น้ำหนักประมาณ 30.32 – 30.4 กรัม
- ตราประทับ ไม่ว่าจะเป็นตราแสตมป์ หรือโลโก้ โดยส่วนใหญ่ตราเหล่านี้จะประทับอยู่บนตัวเรือนของเครื่องประดับทอง มีตัวเลขกำกับไว้ เช่น 8k, 9k, 10k, 14k ฯลฯ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สามารถส่องดูได้ด้วยแว่นขยาย หากพบว่าตอกแบบมั่ว ๆ เช่น เลขซ้ำไปมาหรืออ่านไม่รู้เรื่อง ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าทองปลอม
- ใช้แม่เหล็กดูด เมื่อนำแม่เหล็กมาดูดทองแล้วทองติดกับแม่เหล็กทันที แสดงว่าเป็นทองปลอม เนื่องจากมีส่วนผสมของเหล็กในปริมาณมาก แต่หากเป็นทองแท้จะไม่ถูกแม่เหล็กดูด
- ดูรอยต่อของทอง หากใช้แว่นขยายส่องดูรอยต่อแล้วพบรอยถลอก รอยต่อลอกตัว รอยต่อแยกตัวกับส่วนที่หุ้มอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าเป็นของปลอม หากเป็นทองแท้จะไม่พบรอยใด ๆ
- โยนลงบนกระจก เนื่องจากทองเป็นโลหะที่มีเนื้อไม่แข็งเหมือนเหล็กหรือทองแดง หากโยนทองลงบนกระจกแล้วเกิดเสียงกระทบไม่แหลมดัง แสดงว่าเป็นทองแท้ แต่ถ้าเป็นเสียงดังแหลม ของปลอมแบบไม่ต้องตรวจด้วยวิธีอื่นต่อเลยค่ะ
2.4 เครื่องประดับมุก
- ความมันเงาบนผิวไข่มุก ไข่มุกแท้จะมีความมันเงาภายในตัวเอง หากนำไปส่องกับแสงแล้วจะเกิดแสงสะท้อนออกมา หรืออาจเห็นเงาของผู้ส่องอยู่บนมุก
- สีโอเวอร์โทน หรือสีที่แทรกอยู่ในตัวไข่มุก หากนำไปส่องกับแสงแดดแล้วมีแสงตกกระทบลงมาบนผิวมุกเป็นสีกุหลาบและสีงาช้าง ซึ่งเป็นสีโอเวอร์โทนของมุกสีขาว แสดงว่าเป็นของแท้ แต่ทั้งนี้สีโอเวอร์โทนอาจมีสีอื่นได้เช่นกัน
- วัดอุณหภูมิไข่มุก หากนำไข่มุกแท้และไข่มุกปลอมมาวางไว้ในห้องแล้วพบว่าอุณหภูมิของไข่มุกเม็ดใดเม็ดหนึ่งเย็นกว่าแสดงว่าเม็ดนั้นเป็นของแท้ แต่หากอุณหภูมิของไข่มุกชิ้นนั้นเท่ากับอุณหภูมิห้องแสดงว่าเป็นของปลอม
- นำไข่มุก 2 เม็ดมาถูกัน หากคุณนำมาถูกัน แล้วเกิดการเสียดสีเล็กน้อย แสดงว่าเป็นของแท้แน่นอน เนื่องจากไข่มุกแท้จะมีพื้นผิวที่ขรุขระ แต่หากถูแล้วเรียบลื่นแสดงว่าเป็นของปลอม
- ส่องด้วยกล้องขยาย หากคุณใช้กล้องขยาย 10 เท่า ส่องดูพื้นผิวของไข่มุกแล้วพบว่ามีผิวหยาบเล็กน้อย พบลายของโทนสีไข่มุกที่แตกต่างกัน หรือมีเหลือบของชั้นแตกต่างกัน ซึ่งเกิดจากการสะสมและเคลือบชั้นของมุกตามกระบวนการทางธรรมชาติ แสดงว่าเป็นไข่มุกแท้
Q&A คำถามที่พบบ่อย
ซื้อของหลุดจำนำ ดียังไง ทำไมหลายคนถึงชอบซื้อกัน
ยังมีอีกหลายคนที่คิดว่าของหลุดจำนำมักเป็นของมีตำหนิ ไม่ได้ราคา แต่ในความเป็นจริงแล้วของหลุดจำนำมีข้อดีที่ใครอีกหลายคนไม่ได้มองข้ามไปและให้ความสำคัญ สำหรับข้องดีของสินค้าหลุดจำนำมีดังนี้
- เป็นของแท้ 100% ก่อนจะรับซื้อสินค้านั้น ทางร้านขายของหลุดจำนำจะให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนเป็นของแท้หรือไม่ ยิ่งถ้าเป็นเครื่องประดับเพชรแล้ว จะต้องมีใบยืนยันคุณภาพเพชร อย่างใบเซอร์ GIA, HRD หรือ IGI ด้วย กรณีที่ไม่มีใบดังกล่าว ทางร้านก็จะพิสูจน์ก่อนรับซื้อเครื่องประดับหลุดจำนำทุกครั้งค่ะ
- ราคาถูก เพราะเครื่องประดับหลุดจำนำทุกชิ้นล้วนผ่านการใช้งานมาก่อน จึงมีราคาถูกกว่ามือหนึ่งตามร้านเครื่องประดับแน่นอน สำหรับใครที่ต้องการซื้อเครื่องประดับในปริมาณมากเอาไว้สำหรับแต่งตัวเล่นหรือใส่ออกงาน ก็ถือว่าเหมาะมาก ๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะเครื่องประดับเพชร เนื่องจากเพชรมีมูลค่าที่สูงขึ้นทุกปี ยิ่งถ้าคุณเลือกเพชรดี มีตำหนิน้อยมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา และเป็นเพชรที่มีใบเซอร์เพชรด้วย ซื้อมาขายไปได้ง่ายแน่นอนค่ะ
- มีคุณค่าทางจิตใจ เพราะกว่าจะหาร้านของหลุดจำนำที่ดี มีสินค้าที่น่าสนใจต่อตัวคุณเจอนั้นถือว่ายากพอสมควร บางชิ้นอาจหาซื้อไม่ได้ตามช็อปทั่วไปเนื่องจากเลิกผลิตไปแล้วหรือเป็นสินค้าหายาก ดังนั้นหากคุณดวงดีและมีสายตาที่แหลมคมพอ อาจได้ของหลุดจำนำราคาสูงมาโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ค่ะ
- ลดปริมาณขยะ เนื่องจากการผลิตสินค้าทุกชิ้นจะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนและใช้วัตถุดิบในการผลิตเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีวัตถุดิบส่วนเกินที่ต้องกำจัดทิ้งระหว่างการผลิตอีกด้วย การซื้อของหลุดจำนำจึงช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องทิ้งได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
ซื้อของหลุดจํานํา ผิดไหม
หลายคนอาจเคยดูหนังมาแล้วรู้สึกว่า การเดินเข้าไปจำนำของของตัวละครภายในเรื่องแลดูเป็นเรื่องที่น่าอาย ตัวละครต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ จนดูเหมือนว่าการเข้าร้านเหล่านี้ผิดกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใดค่ะ เพราะการจำนำจะต้องทำสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะการซื้อขายเครื่องประดับทองที่โรงรับจำนำ ทุกร้านจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาฐพิสูจน์ความแท้-เทียมของเครื่องประดับชิ้นนั้น รวมถึงตรวจสอบด้วยว่าสินค้าที่ทางร้านจะรับซื้อเป็นของถูกกฎหมายหรือไม่ เพราะหากร้านไม่ตรวจสอบแล้วรับซื้อมาปล่อยจำนำต่อก็ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายได้ด้วยนะคะ
ซื้อของหลุดจํานํา เจอของดียากไหม
ยากหรือไม่ยากนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกแต่ละคนและประเภทของสินค้าเลยค่ะ หากเป็นเครื่องประดับที่ผลิตจากแร่ธาตุอย่างทอง เงิน หรือแพลทินัมแล้ว ทางเราขอแนะนำให้ดูสภาพของเครื่องประดับก่อนนะคะว่าซื้อมาแล้วต้องเสียเงินซ่อมเพิ่มเติมหรือไม่ หรือมีตำหนิแบบเห็นได้ชัดมากน้อยแค่ไหน เพราะบางคนอาจซีเรียสกับการเลือกของหลุดจำนำซึ่งเป็นของมือสองมากสักหน่อย อารมณ์ประมาณอยากได้มือสองในสภาพมือหนึ่ง อันนี้ก็อาจจะหายากสักนิดนึงนะคะ หากต้องการซื้อเครื่องประดับหลุดจํานําจริง ๆ แนะนำให้เลือกร้านขายของหลุดจํานําที่มีชื่อเสียง เชื่อถือได้ และมีประสบการณ์การซื้อขายมาอย่างยาวนานจะดีที่สุดค่ะ
ทำไมใครหลายคนถึงซื้อขายเครื่องประดับพลอยกับ Irin Gems
ทางเรา ไอรินทร์เจมส์ เป็นร้านพลอยแท้, เพชรแท้ รวมถึงเครื่องประดับและของหลุดจำนำที่มีตัวตนมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ทางเราไม่ใช่ร้านที่ไปรับของที่อื่นมาขายเพียงอย่างเดียว แต่เรามีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง จึงควบคุมกระบวนการผลิตเองทุกขั้นตอนและแบ่งกระจายสินค้าสู่ตลาดเครื่องประดับไทย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราสามารถดูแลเครื่องประดับที่มาจากร้านเพชรร้านทองอื่นได้ดีเหมือนเป็นสินค้าของร้านเราเอง
เราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการ jewelry one stop service ตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ