ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

แนะนำชุดเครื่องเพชรแต่งงานที่เจ้าสาวควรเตรียมให้พร้อมก่อนแต่ง

เชื่อว่าบ่าวสาวหลายคู่อาจเกิดอาการหัวหมุนเกี่ยวกับการเตรียมจัดงานแต่งงาน ทั้งเรื่องของดูฤกษ์แต่งงาน, สถานที่จัดงาน, สินสอดทองหมั้น, อาหารการกินสำหรับงานแต่ง รวมไปถึงชุดเครื่องเพชรแต่งงานที่ต้องพิถีพิถันในการเลือกเป็นพิเศษอีกด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกชุดเครื่องเพชรสำหรับเจ้าสาวกันว่าควรมีเครื่องเพชรชิ้นไหนบ้าง ควรเลือกแบบไหนดี เพื่อให้งานแต่งของคุณออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด

ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

4 ชุดเครื่องเพชรแต่งงานที่เจ้าสาวควรเตรียมให้พร้อมก่อนแต่ง

1. แหวนเพชรแต่งงาน

ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

เนื่องจากแหวนเพชรแต่งงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคู่บ่าวสาว ดังนั้นจึงต้องพิถีพิถันในการเลือกเป็นพิเศษ โดยเราจะแบ่งเป็น 3 วิธีง่าย ๆ ดังนี้

เลือกจากขนาดนิ้ว

  • คนนิ้วมือเรียว สามารถใส่แหวนได้ทุกรูปแบบ สาว ๆ สามารถเลือกดีไซน์ได้ตามใจชอบ
  • คนนิ้วมืออวบ ควรเลือกแหวนที่มีความหนาพอดีกับนิ้ว หรือเลือกแหวนที่มีหัวแหวนทรงเรียวยาว ซึ่งจะช่วยให้นิ้วดูเรียวขึ้น ควรหลีกเลี่ยงแหวนที่หนาเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อนิ้วปลิ้นออกมา
  • คนนิ้วมือสั้น ควรเลือกแหวนขนาดบางและเล็ก หัวแหวนเป็นทรงหยดน้ำหรือทรงหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงหัวแหวนทรงสี่เหลี่ยมหรือทรงกลมใหญ่ เพราะจะทำให้นิ้วดูสั้น
  • คนนิ้วมือยาว ควรเลือกแหวนที่มีหัวแหวนที่มีลวดลายรอบวง หรืออาจใส่แหวน 2-3 วงพร้อมกัน ควรหลีกเลี่ยงแหวนขนาดเล็กและบาง เพราะจะทำให้นิ้วดูผอม
  • คนนิ้วข้อใหญ่ ควรเลือกแหวนที่กว้างพอดี (1 ซม. ขึ้นไป) พอดีกับข้อนิ้ว ป้องกันแหวนหลวมหลังจากสวมใส่ ตัวแหวนมีลวดลายหรือสูงเกือบถึงข้อนิ้ว หลีกเลี่ยงแหวนขนาดเล็กหรือบาง เพราะจะทำให้ข้อนิ้วดูใหญ่

เลือกจากตัวเรือน

  • ทองคำแท้ (Gold) ผลิตจากทองคำ 75 – 80% (ขึ้นอยู่กับร้าน) เพื่อให้ทองแข็งแรงและยึดเกาะอัญมณีได้ดี
  • ทองคำขาว (White gold) หรือ ไวท์โกลด์ ผลิตจากการนำทอง 18K (ทองคำ 75%) ผสมกับอัลลอยและชุบขาวให้สวยงามคล้ายแพลทินัม แต่มีราคาถูกกว่า
  • พิงค์โกลด์ (Pink Gold) ผลิตจากทองคำ 18K ผสมอัลลอยสีออกทองแดง
  • แพลทินัม (Platinum) ผลิตจากโลหะแพลทินัม ปราศจากส่วนผสมของทองคำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายต่อผิว แต่มีราคาสูงกว่าตัวเรือนอื่น ๆ

เลือกจากความหมายของแหวน

ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

  • แหวนเกลี้ยง (Classic Ring) สื่อถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด มั่นคงตลอดไป
  • แหวนเม็ดเดี่ยว (Solitaire Ring) สื่อถึงความซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียว
  • แหวนเพชรรอบวง (Eternity Ring) สื่อถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด
  • แหวนเพชรสามเม็ด (3 Stones Ring) สื่อถึงความรักเหนือกาลเวลา ทั้งอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต
  • แหวนทรงบ่าข้าง (Supporter Ring)สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตคู่
  • แหวนเพชรทรงดอกไม้ (Flower Ring) สื่อถึงความรักที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
  • แหวนเพชรล้อม (Diamond Ring) สื่อถึงความรักมั่นคง เคียงคู่กันตลอดไป
  • แหวนเพชรทรง Infinite (Infinite Ring) สื่อถึงความรักอันเป็นนิรันดร์
  • แหวนสามวงติดกัน (Trinity ring) สื่อถึงความซื่อสัตย์, ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน และความรักอันหนักแน่น

2. ต่างหูเพชร

ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

การเลือกต่างหูเพชรนั้นควรเลือกจากรูปหน้าของเจ้าสาว แบ่งเป็นรูปหน้ากลม, รูปหน้าไข่, รูปหน้าสามเหลี่ยม และรูปหน้าสี่เหลี่ยม ดังนี้

  • รูปหน้าไข่ ถือเป็นใบหน้าที่ได้เปรียบกว่าใบหน้าทรงอื่น เนื่องจากสามารถใส่ต่างหูได้ทุกรูปทรง ดังนั้นเลือกรูปทรงได้ตามใจชอบเลยค่ะ
  • รูปหน้ากลม ควรเลือกต่างหูที่มีรูปทรงเรียวยาว เพื่อช่วยปิดติ่งหูและลดความกลมของใบหน้าขึ้นมา เช่น ต่างหูทรงหยดน้ำ, ต่างหูทรงมาคี (เม็ดข้าว), ต่างหูทรงสี่เหลี่ยม หลีกเลี่ยงต่างหูทรงกลมและต่างหูทรงห่วงกลม ซึ่งจะเน้นความกลมของใบหน้าให้เด่นยิ่งขึ้น
  • รูปหน้าสามเหลี่ยม เนื่องจากรูปหน้าประเภทนี้มีคางเรียวแหลม ควรเลือกต่างหูขนาดใหญ่เพื่อให้ปิดติ่งหูพอดี เช่น ต่างหูทรงหยดน้ำ, ต่างหูทรงไข่, ต่างหูทรงกลม นอกจากจะปิดติ่งหูแล้วยังช่วยให้ใบหน้าดูมนขึ้น
  • รูปหน้าสี่เหลี่ยม เป็นทรงหน้าที่มีโหนกแก้มสูงและคางกว้าง ควรเลือกต่างหูที่มีลักษณะกลมเพื่อบดบังความเหลี่ยมของใบหน้า เช่น ต่างหูทรงกลม, ต่างหูทรงไข่ หรืออาจเลือกต่างหูที่มีแป้นเล็กก็ได้เช่นกัน
  • รูปหน้าผอมยาว ควรเลือกต่างหูที่มีลักษณะกลมหรือมีหน้ากว้าง เพื่อเสริมให้ใบหน้าดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น เช่น ต่างหูทรงกลม, ต่างหูทรงสี่เหลี่ยม

รูปทรงของต่างหูเพชรยอดนิยม

ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

  • ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยว (Stud Earrings)
  • ต่างหูเพชรแบบห่วง (Hoop Earrings)
  • ต่างหูเพชรแบบกระจุก (Cluster Earrings)
  • ต่างหูเพชรทรงหยดน้ำ (Pear Shaped Earrings)
  • ต่างหูเพชรระย้า หรือแชนเดอเลียร์ (Chandelier Earrings)
  • ต่างหูเพชรทรงสามเหลี่ยม (Triangle Shaped Earrings)
  • ต่างหูเพชรสี่เหลี่ยม (Square Shape Earring)
  • ต่างหูเพชรแบบยาว (Drop Style Earrings)
  • ต่างหูเพชรรูปหัวใจ (Heart Shaped Earrings)

3. สร้อยคอเพชร

ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

ในปัจจุบันมีสร้อยคอที่มีความยาวแตกต่างกัน เพื่อให้ผู้สวมใส่มีตัวเลือกในการใส่สร้อยคอที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น สร้อยคอส่วนใหญ่มีความยาวตั้งแต่ 14-36 นิ้ว (35-85 เซนติเมตร) ดังนี้

  • สร้อยคอขนาด 14 นิ้ว เป็นสร้อยที่มีความยาวพอดีกับลำคอ ทำมาจากหนัง, ผ้า, เงิน, ทอง, โลหะ หรือลูกปัด แม้ว่าจะเป็นเครื่องประดับที่ดูโดดเด่น แต่ไม่เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีลำคอสั้นและลำคอใหญ่ เพราะทำให้ดูคอสั้นกว่าเดิม
  • สร้อยคอขนาด 16 นิ้ว เป็นสร้อยคอที่มีขนาดสั้น มีจุดเด่นตรงที่สร้อยพาดผ่านแนวไหปลาร้าพอดี จึงเป็นที่นิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สามารถสวมใส่กับเสื้อผ้าได้ทุกรูปแบบ ทั้งนี้ไม่เหมาะสำหรับเจ้าสาวร่างใหญ่หรือมีลำคอใหญ่ เนื่องจากดูรั้งคอมากเกินไป
  • สร้อยคอขนาด 18 นิ้ว เป็นสร้อยคอที่มีความยาวระดับคอเสื้อ สามารถเห็นสร้อยคอได้ชัด เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องโชว์สร้อยคอ เป็นอีกหนึ่งขนาดสร้อยคอที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
  • สร้อยคอขนาด 20 นิ้ว เป็นสร้อยคอที่มีความยาวขนาดปานกลาง ไม่สั้นหรือยาวเกินไป ตัวสร้อยและจี้จะพาดบริเวณเนินอกพอดี เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการโชว์สร้อยคอเป็นพิเศษ
  • สร้อยคอขนาด 22 และ 24 นิ้ว เป็นสร้อยคอที่มีความยาวพอสมควร สำหรับสร้อยคอขนาด 22 นิ้ว จะอยู่บริเวณกลางหน้าอก ส่วนขนาด 24 นิ้ว จะอยู่บริเวณใต้ราวนม โดยสร้อยคอประเภทนี้สามารถสวมใส่ได้ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับใส่คู่กับเสื้อผ้าได้ทุกรูปแบบ
  • สร้อยคอขนาด 36 นิ้ว ส่วนใหญ่นิยมใส่เป็นสร้อยไข่มุกพันซ้อน 2 เส้น หรืออาจปล่อยยาวตามความยาวจริงของสร้อยคอ เหมาะสำหรับใส่คู่กับเสื้อผ้าสายแฟชั่น หรือใส่เพื่อสร้างความโดดเด่นในการแต่งตัว

สำหรับการเลือกสร้อยคอเพชรนั้นแบ่งวิธีเลือกได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ เลือกจากรูปหน้า, เลือกจากช่วงคอ และเลือกความสูงของเจ้าสาว

3.1 เลือกจากรูปหน้า

  • รูปหน้าไข่ ถือเป็นใบหน้าที่ได้เปรียบกว่าใบหน้าทรงอื่น สามารถใส่สร้อยเพชรได้ทุกรูปแบบ
  • รูปหน้ากลม ควรเลือกสร้อยเพชรที่มีความยาวประมาณ 24-36 นิ้ว ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาว ควรหลีกเลี่ยงสร้อยเพชรที่มีขนาดสั้นเกินไป เพราะจะเน้นให้ใบหน้าดูกลมยิ่งขึ้น
  • รูปหน้าสี่เหลี่ยมและรูปหน้าผอมยาว ควรเลือกสร้อยเพชรที่มีความยาวประมาณ 14-18 นิ้ว ช่วยให้ใบหน้าดูกลมมน มีมิติ

3.2 เลือกจากช่วงคอ

  • ลำคอสั้น ควรเลือกสร้อยคอที่มีความยาวเลยไหปลาร้าลงมาประมาณ 1-2 นิ้ว ตัวสร้อยควรมีความยาวประมาณ 10-24 นิ้ว พร้อมด้วยจี้เพชรเม็ดเล็กจะช่วยเสริมให้ตัวสร้อยดูเป็นทรงวี (V) และพรางลำคอให้ดูยาว มีมิติและสมส่วนมากขึ้น ทั้งนี้อาจเลือกจี้เพชรเม็ดเดี่ยว, จี้เพชรล้อม หรือจี้เพชรประกอบก็ได้ตามความชอบ
  • ลำคอยาว ควรเลือกสร้อยคอที่มีความหนาและอยู่เหนือไหปลาร้า เพื่อให้ลำคอดูสมส่วน ตัวสร้อยควรมีความยาวประมาณ 25 นิ้วขึ้นไป

3.3 เลือกจากความสูง

  • ส่วนสูงน้อยกว่า 160 เซนติเมตร ควรเลือกสร้อยเพชรที่มีความยาวประมาณ 15-22 นิ้ว ช่วยให้ลำคอดูเรียวยาวขึ้น ทั้งนี้ควรเลือกสร้อยเพชรทรงไข่ หรือสร้อยเพชรทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
  • ส่วนสูงประมาณ 160-170 เซนติเมตร ควรเลือกสร้อยเพชรที่มีความยาวประมาณ 18-24 นิ้ว ช่วยให้ลำคอดูพอดีกับสร้อยคอ
  • ส่วนสูงมากกว่า 170 เซนติเมตร ควรเลือกสร้อยเพชรที่มีความยาวตั้งแต่ 24 นิ้วขึ้นไป เพื่อเสริมให้รูปร่างดูสมส่วนยิ่งขึ้น

4. กำไลเพชร

ชุดเครื่องเพชรแต่งงาน

สำหรับการเลือกกำไลเพชรแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ เลือกจากขนาดแขน และเลือกจากสีผิว

เลือกจากขนาดแขน

  • แขนเล็ก ควรเลือกกำไลขนาดเล็ก ขนาดพอดีกับข้อมือ สามารถเลื่อนได้เล็กน้อย ไม่รัดหรือหลวมจนเกินไป ควรหลีกเลี่ยงกำไลที่มีขนาดใหญ่และหนา เพราะจะทำให้ข้อมือดูใหญ่ยิ่งขึ้น
  • แขนหนา ควรเลือกกำไลแบนและหนา ขนาดพอดีกับข้อมือ หรือหลวมเล็กน้อย เช่น กำไลเพชรประดับไข่มุกเม็ดเล็ก หรือลูกปัดเม็ดเล็ก ควรหลีกเลี่ยงกำไลที่หลวม เพราะจะทำให้แขนดูเล็กกว่าเดิม
  • แขนเรียว สมส่วน สามารถสวมใส่กำไลได้ทุกรูปแบบ เพียงแต่ต้องคำนึงถึงสีผิวและเสื้อผ้าที่สวมใส่ว่าเข้ากันหรือไม่

เลือกจากสีผิว

  • สีผิวคล้ำ ควรใส่กำไลโทนสีสว่าง เช่น สีขาว และสีทอง ดูตัดกับสีผิวที่คล้ำ ช่วยให้กำไลเพชรดูเด่นขึ้นมา อาจเลือกกำไลที่มีรูปทรงเรขาคณิตหรือทรงกลม ช่วยให้กำไลดูมีลูกเล่นกว่าเดิม
  • สีผิวอ่อนและสีผิวขาว ควรใส่กำไลโทนสีเข้ม เช่น สีแดง และสีดำ อาจเลือกกำไลที่มีดีไซน์เรียบง่ายหรือดีไซน์แปลก ๆ ก็ได้เช่นกัน ส่วนคนที่มีผิวขาวก็สามารถสวมใส่ได้ แต่อาจจะดูไม่โดดเด่นเท่าคนผิวคล้ำ

เลือกเครื่องประดับเพชรสำหรับงานแต่งทั้งที ต้องดีที่สุดสำหรับคุณและคู่รัก

เครื่องประดับเพชรที่ดีจะต้องมีคุณภาพตรงตามหลัก 4Cs ประกอบด้วย กะรัตของเพชร (Carat), คุณภาพการเจียระไน (Cut), สีของเพชร (Color) และความสะอาดของเพชร (Clarity) ดังนี้

  • กะรัตของเพชร (Carat) คำว่า “กะรัต” เป็นหน่วยวัดขนาดน้ำหนักของเพชร โดยเพชร 1 กะรัต น้ำหนักเท่ากับ 0.2 กรัม (200 มิลลิกรัม) หรือ 100 สตางค์ (ตังค์) ยิ่งเพชรมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ มูลค่าก็ยิ่งสูงตามด้วย
  • คุณภาพการเจียระไน (Cut) เป็นคุณภาพของเจียระไนตั้งแต่ Excellent ไปจนถึง Poor มีผลต่อการสะท้อนแสงของเพชรทั้งในส่วนของความระยิบระยับ, ประกายไฟ และความสว่างไสว
  • สีของเพชร (Color) หรือที่คนไทยเรียกว่าติดปากว่า “น้ำ” มีระดับสีของเพชรซึ่งแทนด้วยตัวอักษร D (เพชรไร้สี) ไปจนถึง Z (เพชรสีเหลืองนวล)
  • ความสะอาดของเพชร (Clarity) โดยทั่วไปเพชรจะมีตำหนิซึ่งเกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ ยิ่งเพชรธรรมชาติมีความสะอาดมากและไม่มีตำหนิ ก็ยิ่งมีมูลค่าสูงขึ้นตาม

สำหรับใครที่กำลังมองหาชุดเครื่องเพชรแต่งงานอยู่ ทางเรา ไอรินทร์เจมส์ เป็นร้านเพชรแท้, พลอยแท้ รวมถึงเครื่องประดับและของหลุดจำนำที่มีตัวตนมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ทางเราไม่ใช่ร้านที่ไปรับของที่อื่นมาขายเพียงอย่างเดียว แต่เรามีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง จึงควบคุมกระบวนการผลิตเองทุกขั้นตอนและแบ่งกระจายสินค้าสู่ตลาดเครื่องประดับไทย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราสามารถดูแลเครื่องประดับที่มาจากร้านเพชรร้านทองอื่น ๆ ได้ดีเหมือนเป็นสินค้าของร้านเราเอง

เราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการ jewelry one stop service ตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

แชร์บทความ

คุณน่าจะสนใจ

Line

Your cart

No products in the cart.