ทองปลอมระบาดหนักในช่วงนี้เกิดจากอะไร มีวิธีเช็กยังไงบ้าง
แม้ว่าทองปลอมจะอยู่คู่สังคมไทยมานานแต่หากคุณสังเกตดีๆ จะพบว่าช่วงนี้ทองปลอมระบาดหนักมากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นข่าวตามโซเชียลมีเดียรายวันเลยก็ว่าได้ ว่าแต่สาเหตุเกิดจากอะไร แล้วมีวิธีเช็กทองได้ด้วยตัวเองบ้างไหม เดี๋ยววันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ทำไมช่วงนี้ทองปลอมระบาดหนักมาก
ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีปัจจัยต่างๆ ที่มีผลทำให้ราคาทองสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมิจฉาชีพเองก็เห็นโอกาสตรงนี้เลยสร้างช่องทางโซเชียลมีเดียขึ้นมาเพื่อหวังหลอกเอาเงินจากนักลงทุนทองที่มีประสบการณ์น้อย สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาทองสูงขึ้นมีดังนี้
1. สงครามระหว่างประเทศ
ได้แก่ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และสงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ในตอนนี้ภาวะสงครามยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงแม้แต่น้อย ส่งผลต่อราคาทองปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อเกิดสงครามก็จะทำให้ผู้คนจำนวนมากถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลง ทำให้สินค้าต่างๆ มีจำนวนน้อยลงและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น การจับจ่ายใช้สอยเงินในช่วงนี้ถือว่าเป็นความเสี่ยงหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถ้าหากไม่เลือกจับจ่ายให้ดีก็อาจสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้เลยทีเดียว ดังนั้นผู้คนจึงหันมาให้ความสนใจกับทองคำมากขึ้น เนื่องจากทองคำไม่ขึ้นตรงกับดอกเบี้ย ป้องกันเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี มีแต่จะปรับตัวสูงขึ้นในภาวะสงคราม
2. ปัญหาเศรษฐกิจจีน
ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้มีการผลักดันโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มากมายอย่างต่อเนื่องเพราะคิดว่าประชาชนมีกำลังจ่ายในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเองมากกว่าหลายสิบปีก่อน แต่เมื่อเกิดวิกฤตการณ์โควิด 19 ขึ้น โรคร้ายได้คร่าชีวิตของชาวจีนไปเป็นจำนวนมาก ประชาชนจีนเองก็ตระหนักถึงวิกฤตดังกล่าวและหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น อสังหาริมทรัพย์จึงกลายเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยในขณะนี้ เมื่อผู้ซื้อลดลงแต่ผู้ขายยังมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทอสังหาในประเทศจีนหลายๆ บริษัทติดหนี้ค้างชำระเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่าหากราคาอสังหาในจีนลดลง กำลังซื้อของชาวจีนก็ลดลงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาในภาคแรงงานของจีนที่มีจำนวนลดลงกว่าแต่ก่อน เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่ต้องการทำงานในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เรียนมาและเลือกที่จะหางานที่ตรงสายกับตัวเอง ส่งผลให้มีประชากรที่ทำงานจริงๆ น้อยลง ภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจึงชะลอตัวตามไปด้วย และเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวก็ทำให้ชาวจีนโดยเฉพาะ Gen Z หันมาสะสมทองคำกันมากขึ้น
3. FED ลดดอกเบี้ย
นโยบายปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือ FED ก็มีผลต่อราคาทองคำด้วยเช่นกันแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับเพียง 0.01% ก็ตาม เนื่องจากดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการซื้อขายทองคำทั่วโลก หากอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น มีผลทำให้ราคาทองลดลงเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น แต่ในช่วงเวลานี้ทาง FED เองได้มีนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
4. ธนาคารกลาง
ทองคำเป็นทุนสำรองของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อเติมสภาพคล่องให้แก่ประเทศนั้นๆ ในด้านของการเป็นสกุลเงินสำรองที่ใช้ซื้อขายหรือนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ยิ่งโดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเกิดทั้งวิกฤตการณ์โควิด 19 และภาวะสงครามต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธนาคารหลายๆ ประเทศหันมาซื้อทองคำกันมากขึ้นเพื่อใช้เป็นทุนสำรองในยามวิกฤตของประเทศ และเมื่อทองคำเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากขึ้นส่งผลให้ราคาของมันพุ่งสูงขึ้นตามด้วย
ราคาทองสูงขึ้นมากน้อยแค่ไหน
รู้หรือไม่ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการปรับราคาสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดของทองคำ จากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ราคาทองคำจะอยู่ที่ 34,650 บาท ขึ้นมาเป็น 38,550 บาทในเดือนมีนาคม (ขึ้นมาถึง 3,950 บาท) และในช่วงเดือนเมษายนปีเดียวกันราคาทองคำก็ปรับตัวสูงขึ้นอีกรอบเป็น 42,000 บาท (ขึ้นมาถึง 2,100 บาท) ซึ่งถ้าเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการปรับราคาทองคำสูงสุดเพียงแค่ 1,850 บาท และในปี 2566 ที่ผ่านมาปรับขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 1,050 บาท
ทองแท้ ทองปลอม ดูยังไงไม่ให้ถูกมิจฉาชีพหลอก
- ทองแท้มีเนื้อที่เบา หากนำทองแท้กับทองปลอมมาชั่งเทียบกันในน้ำหนักที่เท่ากันจะพบว่าทองปลอมหนักกว่าของแท้อย่างแน่นอนเนื่องจากมีโลหะอื่นผสมอยู่ด้วย
- ทองแท้มีเนื้อที่อ่อนนุ่มจึงง่ายต่อการตีตราประทับ หากเป็นทองแท้จะมีตราประทับอยู่บนทองเสมอ แต่หากเป็นทองปลอมจะไม่มีตราประทับเนื่องจากตีตรายาก หรือหากมีบริเวณตราประทับจะไม่เรียบเนียนเท่าทองแท้
- เนื้อทองจะไม่ทำปฏิกิริยากับแม่เหล็ก หากวางทองแท้ใกล้แม่เหล็กก็จะไม่ถูกดูดเข้าหา ส่วนทองปลอมที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุที่ทำปฏิกิริยากับแม่เหล็กได้จะถูกดูดเข้าหาแม่เหล็กทันที
- ทองแท้มีความทนทานต่อการใช้งานสูง หากพบรอยขีดข่วนหรือมีสีที่เปลี่ยนไปบริเวณรอยต่อของทองแสดงว่าเป็นทองปลอม ส่วนทองแท้จะมีสภาพเหมือนวันแรกที่ซื้อมาทุกประการ
- ทองแท้มีเนื้อที่นิ่ม เวลาใช้เล็บจิกหรือฟันกัดเพียงเบาๆ ก็อาจทำให้เนื้อทองยุบหรือเป็นรอยบุ๋ม ส่วนทองปลอมจะกัดหรือจิกไม่เข้าเนื่องจากมีเนื้อที่แข็ง
- ทองแท้จะไม่ทำปฏิกิริยากับกรดไนตริก หากหยดกรดไนตริกลงบนเนื้อทองก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนทองปลอมจะถูกกฎในตริกกัดจนเป็นรอยแหว่ง
- ทองแท้ทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี หากนำทองแท้ไปเผาไฟก็จะไม่เกิดปฏิกิริยาใดๆ ขึ้น ส่วนทองปลอมที่มีส่วนผสมของโลหะอื่นจะถูกเผาหรือเปลี่ยนเป็นสีดำทันที
และเพื่อความปลอดภัยเราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลของร้านทองที่คุณสนใจให้ดีว่าเป็นร้านทองที่น่าเชื่อถือหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นร้านทองที่มีชื่อเสียงก็ตามแต่ในปัจจุบันเรามิจฉาชีพได้ทำการสร้างเพจปลอมขึ้นมาโดยใช้ชื่อเดียวกับร้านทองชั้นนำ ดังนั้นคุณควรดูรีวิวว่าเป็นรีวิวปลอมหรือไม่ ดูการอัพเดทเพจว่ามีความสม่ำเสมอมากน้อยแค่ไหน หรือเพื่อความชัวร์เราขอแนะนำให้คุณเดินทางไปซื้อกับร้านทองชั้นนำด้วยตัวเองจะดีที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณปลอดภัยจากเหล่ามิจฉาชีพให้ได้มากที่สุดค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
- ดูทองแท้ด้วยตัวเองยากมั้ย มีวิธีไหนที่ทำได้บ้าง
- ทอง 96.5 คืออะไร ขายได้ไหม ทำไมถึงนิยมใช้ในงานเครื่องประดับ
- เปอร์เซนต์ทองไม่เท่ากัน เกิดจากอะไร มีวิธีเช็กได้ยังไงบ้าง
ซื้อทองรูปพรรณแท้ ที่ไหนดี ทำไมต้อง Irin Gems
Jewelry one stop service เป็นบริการจิวเวอร์รี่ที่เดียวที่ให้บริการดูแลเครื่องประดับในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขัด ล้าง ชุบ ออกแบบเครื่องประดับใหม่ ฝังพลอยฝังเพชร ฯลฯ เพราะเราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการดังกล่าวเพื่อตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ