เปอร์เซ็นทองโบราณ

เปอร์เซ็นต์ทองโบราณ สำคัญแค่ไหน มีวิธีตรวจเช็กเปอร์เซนต์ทองอย่างไร

เปอร์เซ็นต์ทองโบราณมีความสำคัญอย่างมาก ทั้งในแง่ของคุณค่า ความบริสุทธิ์ และการประเมินมูลค่าของทองคำ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นทองโบราณ ซึ่งมีเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเพิ่มเติมแตกต่างจากทองที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เก็บสะสมหรือมีทองโบราณและต้องการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ของทองโบราณ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี เรามีคำแนะนำค่ะ

เปอร์เซ็นต์ทองโบราณ สำคัญอย่างไร

1. บ่งบอกความบริสุทธิ์ของทองคำ

เนื่องจากเปอร์เซ็นต์ทองเป็นสิ่งที่บ่งบอกปริมาณทองคำบริสุทธิ์ในโลหะชิ้นนั้น โดยทองคำแท่งและทองรูปพรรณในปัจจุบันจะมีค่าความบริสุทธิ์อยู่ที่ 96.5-99.99% แตกต่างจากทองโบราณบางชิ้นที่มีเปอร์เซ็นต์ทองไม่เท่ากับทองในปัจจุบัน เนื่องจากช่างทองโบราณจะผลิตทองทุกขั้นตอนด้วยงานฝีมือล้วนๆ ไม่มีเครื่องมือช่วยกะเปอร์เซ็นต์ของทองเหมือนในปัจจุบัน อีกทั้งนิยมผสมกับโลหะอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เช่น เงิน ทองแดง ซึ่งเปอร์เซ็นต์ของทองโบราณที่ได้จากการตรวจทองจะช่วยให้ร้านทองคำนวณราคาซื้อขายได้อย่างเหมาะสม ตรงตามมาตรฐานของสมาคมค้าทองคำ

2. ส่งผลต่อความสวยงามและคุณสมบัติการใช้งาน

หากเป็นทองโบราณที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก ช่างทองในสมัยนั้นมักใช้ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่ามาตรฐานในปัจจุบัน เพื่อให้ทองมีความแข็งแรง ทนทานต่อการเสียดสีหรือถูกกระแทก เพียงแต่สีที่ออกมาจากทองเปอร์เซ็นต์ต่ำจะมีความซีด ไม่สดใสเหมือนทองเปอร์เซ็นต์สูงในปัจจุบัน 

3. คุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์ 

ทองโบราณบางชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้เปอร์เซ็นต์ทองต่ำก็ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมสูง ซึ่งการวิเคราะห์เปอร์เซ็นต์ทองโบราณจะช่วยระบุแหล่งกำเนิดหรือยุคสมัยของทองคำ เช่น ทองจากสุโขทัยหรืออยุธยา

4. ช่วยตรวจสอบความแท้ของทองได้ง่ายขึ้น

ทองโบราณอาจถูกปลอมแปลงโดยใช้ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำผสมเพื่อเลียนแบบทองโบราณจริง ดังนั้นการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทองช่วยยืนยันความแท้และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับชิ้นงานนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าทองในสมัยโบราณจะใช้เปอร์เซ็นต์ทองที่ต่ำกว่าปัจจุบัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามทองโบราณส่วนมากมักเป็นทองแท้ที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ของทองแตกต่างจากทองปลอมอย่างชัดเจน

วิธีตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทองโบราณ

1. การทดสอบด้วยกรด (Acid Test)

เป็นการใช้น้ำยากรดที่มีความเข้มข้นต่างๆ ในการทดสอบ (กรดไนตริก, กรดเกลือ) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ในอดีตและยังคงใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีวิธีการทดสอบที่ทันสมัยกว่า แต่การทดสอบด้วยวิธีนี้ยังคงเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดพอสมควร สำหรับวิธีการทดสอบนั้นจะต้องเตรียมกรดสำหรับทดสอบ, เข็มหรือลูกบอลเหล็กสำหรับขูดทองคำ, แผ่นทดสอบที่ทำจากหินหรือกระจก, น้ำสะอาด และผ้าสะอาด สำหรับล้างและเช็ดทำความสะอาด

โดยช่างจะใช้เข็มหรือลูกบอลเหล็กขูดพื้นผิวทองคำที่บริเวณที่มองเห็นยาก (มักเป็นจุดที่มีการซ่อนรอยขูดได้ง่าย) จากนั้นวังทองที่ขูดบนแผ่นทดสอบเพื่อให้กรดสัมผัสกับพื้นผิวทองคำ จากนั้นหยดกรดลงไปบริเวณที่ขูดทองคำ เพื่อดูปฏิกิริยาว่ามีฟองหรือสีที่เปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากพบว่ามีฟองหรือสีเปลี่ยนไปแสดงว่าเป็นทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ แตกต่างจากทองคำบริสุทธิ์ที่ไม่ตอบสนองต่อกรดหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่เห็น แต่หากเป็นทองคำที่ผสมกับโลหะอื่นอย่างทอง 14K, ทอง 18K กรดจะทำปฏิกิริยามากกว่าและอาจทำให้เกิดรอยกัดกร่อนได้

2. การทดสอบด้วยเครื่อง XRF (X-Ray Fluorescence)

เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีการปล่อยรังสีเอกซ์ (X-ray) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของโลหะโดยไม่ทำให้ชิ้นงานเสียหายแม้แต่น้อย โดยช่างจะให้เครื่อง XRF จะปล่อยรังสี X ไปยังพื้นผิวของทองคำ เมื่อรังสี X กระทบกับตัวอย่างทองคำ จะเกิดการปล่อยรังสีฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescence) ที่มีลักษณะเฉพาะตัวตามแต่ละธาตุและแปลผลเป็นสัญญาณที่สามารถแยกแยะชนิดของธาตุต่างๆ ออกมา โดยข้อมูลที่ได้จะถูกประมวลผลและแสดงเปอร์เซ็นต์ขององค์ประกอบต่างๆ เช่น ทองคำ (Au), เงิน (Ag), ทองแดง (Cu), และโลหะผสมอื่นๆ ในตัวอย่างทองคำ ข้อดีของวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์ในเวลาสั้นๆ โดยไม่ทำลายชิ้นงาน อีกทั้งใช้ทดสอบทองคำหลายๆ ชิ้นได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย

3. การวิเคราะห์ด้วยสเปกโตรมิเตอร์ (Inductively Coupled Plasma – ICP)

เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ในการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของโลหะ โดยใช้หลักการพลาสม่า (Plasma) ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ละเอียดและแม่นยำมาก โดยนำทองที่ต้องการตรวจไปหลอมและทำให้เป็นละอองหรือสารละลาย จากนั้นตัวอย่างทองคำจะถูกนำเข้าเครื่อง ICP และถูกทำให้ร้อนจนกลายเป็นพลาสม่า ซึ่งจะทำให้ธาตุต่างๆ ในตัวอย่างทองคำเกิดการระเหย ในระหว่างนั้นสเปกโตรมิเตอร์จะวิเคราะห์สเปกตรัมแสงที่ปล่อยออกจากพลาสม่าและแยกแยะองค์ประกอบที่ต่างกัน ก่อนที่จะแสดงข้อมูลในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ของแต่ละธาตุองค์ประกอบ เหมาะสำหรับการทดสอบทองคำที่มีโลหะผสมหลายชนิด

4. การทดสอบด้วยการหลอม (Fire Assay)

เป็นวิธีการดั้งเดิมที่ใช้ในการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทองคำ โดยการหลอมและแยกทองคำจากโลหะอื่นด้วยการใช้สารเคมี โดยเริ่มจากนำตัวอย่างทองไปหลอมในเตาหลอมเพื่อใช้สารเคมีในการแยกทองออกจากโลหะอื่น โดยทองคำบริสุทธิ์จะถูกดึงออกและวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ แม้ว่าวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมาก แต่อาจใช้เวลานานและทำให้ทองคำเสียหายง่าย ทางที่ดีควรตรวจเปอร์เซ็นต์ทองด้วยวิธีอื่นจะดีกว่าค่ะ

การตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทองโบราณนั้นสามารถทำได้โดยใช้เครื่อง XRF, ICP หรือการหลอม ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและสามารถตรวจสอบได้หลากหลายองค์ประกอบของทองคำและโลหะผสมอื่นๆ แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่สูงและความเสี่ยงที่จะทำให้ทองคำเสียหายได้ในบางวิธี ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจเปอร์เซ็นต์ทองให้ดีกับร้านทองชั้นนำที่เชื่อถือได้ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการตรวจทองจากร้านที่ไม่ได้มาตรฐานและช่วยประหยัดงบในการตรวจทองให้คุณได้มากยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติม: เครื่องตรวจทองดีกว่าตรวจแบบเดิมอย่างไร ทำไมไอรินทร์เจมส์ถึงใช้

บทความที่น่าสนใจ

ซื้อแหวนพลอยนพเก้าที่ไหนดี ทำไมต้อง Irin Gems

Irin Gems รับผลิตแหวน จำหน่ายเพชรหลุดจำนำ เพชรมือสอง แหวนหลุดจำนำ ทองหลุดจำนำ แหวนแต่งงาน ของหลุดจำนำ

Jewelry one stop service เป็นบริการจิวเวอร์รี่ที่เดียวที่ให้บริการดูแลเครื่องประดับในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขัด ล้าง ชุบ ออกแบบเครื่องประดับใหม่ ฝังพลอยฝังเพชร ฯลฯ เพราะเราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการดังกล่าวเพื่อตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ

แชร์บทความ
Line

Your cart

No products in the cart.