
รู้แล้วจะต้องร้องอ๋อ กับวิธีเช็กทองหลุดจำนำง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
สำหรับใครที่เป็นสายลงทุนและต้องการซื้อทองไว้เก็งกำไร ทองหลุดจำนำเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นของแท้หรือของเทียม เรามีวิธีเช็กแบบง่ายมาฝากค่ะ
วิธีเช็กทองหลุดจำนำด้วยตัวเอง
1. วัดขนาดทอง
วิธีนี้ต้องอาศัยประสบการณ์สักนิดนึง คุณจะต้องรู้ว่าทองคำหนัก 1 หรือ 2 บาท ควรมีขนาดแค่ไหน เพื่อดูว่าน้ำหนักกับขนาดสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้าทองคำน้ำหนัก 2 บาท แต่ขนาดใหญ่มากกว่าปกติ อาจเป็นทองปลอม
2. ชั่งน้ำหนักทอง
หากคุณมีทองคำแท้ที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกับทองที่คุณกำลังจะซื้อ แนะนำให้ถือทองแต่ละชิ้นไว้ที่มือคนละข้าง ถ้าข้างใดมีน้ำหนักมากกว่า แสดงว่าเป็นทองปลอมแน่นอน เนื่องจากมีส่วนผสมอื่นปะปนอยู่ จำไว้เลยนะคะว่าทองคำแท้ ไม่ว่าจะเส้นเล็กหรือใหญ่ แต่หากมีน้ำหนัก 1 บาท ก็จะมีน้ำหนักเท่ากันเสมอ
หากพูดถึงเกณฑ์การวัดน้ำหนักทองแล้ว ทางสมาคมค้าทองคำได้กำหนดน้ำหนักทองรูปพรรณที่มีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 96.5% หรือ 23k แต่ละขนาด หากคุณยังไม่แน่ใจ แนะนำให้ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอลสำหรับทองคำแท้เพื่อวัดตามน้ำหนักมาตรฐาน ดังนี้
- ทองครึ่งสลึง น้ำหนักประมาณ 1.89 – 1.9 กรัม
- ทอง 1 สลึง น้ำหนักประมาณ 3.79 – 3.8 กรัม
- ทอง 2 สลึง น้ำหนักประมาณ 7.58 – 7.6 กรัม
- ทอง 3 สลึง น้ำหนักประมาณ 11.37 – 11.4 กรัม
- ทอง 1 บาท น้ำหนักประมาณ 15.16 – 15.2 กรัม
- ทอง 2 บาท น้ำหนักประมาณ 30.32 – 30.4 กรัม
ส่วนทองปลอมจะมีน้ำหนักไม่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด แต่หากทองของคุณมีขนาดมากกว่านี้ อย่าลืมบวกลบเพิ่มเติมตามน้ำหนักมาตรฐานดังกล่าว
3. ตราประทับ
ได้แก่ ตราแสตมป์ หรือโลโก้ ส่วนใหญ่ตราเหล่านั้นจะประทับอยู่บนตัวเรือนของเครื่องประดับทอง และมีตัวเลขกำกับไว้ เช่น 8k, 9k, 10k, 14k ฯลฯ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สามารถส่องดูได้ด้วยแว่นขยาย หากพบว่าตอกแบบมั่ว ๆ เช่น เลขซ้ำไปมาหรืออ่านไม่รู้เรื่อง ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าทองปลอม
4. ใช้แม่เหล็กดูด
เมื่อนำแม่เหล็กมาดูดทองแล้วทองติดกับแม่เหล็กทันที แสดงว่าเป็นทองปลอมแน่นอน เนื่องจากมีส่วนผสมของเหล็กในปริมาณมาก แต่หากเป็นทองแท้จะไม่ถูกแม่เหล็กดูด ทั้งนี้ควรตรวจสอบด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เนื่องจากมีโลหะบางชนิดที่แม่เหล็กดูดไม่ติดด้วยเช่นกัน
5. ดูรอยต่อของทอง
หากใช้แว่นขยายส่องดูตามรอยต่อ หากพบรอยถลอก, รอยต่อของทองลอกตัว หรือรอยต่อแยกตัวกับส่วนที่หุ้มอยู่ภายในจนเห็นได้ชัด แสดงว่าเป็นของปลอม ถ้าเป็นทองคำแท้จะไม่พบรอยถลอกหรือรอยต่อเปลี่ยนสีแต่อย่างใด
6. ใช้ฟันกัดทอง ใช้เล็บจิกเนื้อทอง
เนื่องจากทองแท้มีความอ่อนตัวสูง เพียงแค่ใช้ฟันกัดหรือเล็บจิกเบา ๆ ไปที่เนื้อทอง หากเป็นทองแท้จะยุบตัวลงไป ส่วนทองปลอมจะแข็งมากกว่า หากจิกหรือกัดก็อาจไม่เกิดรอยบุ๋มแม้แต่น้อย เนื่องจากมีส่วนผสมของเหล็ก, ทองแดง หรือทองชุบ ทั้งนี้วิธีดังกล่าวอาจไม่เหมาะกับการพิสูจน์ทองคำแท้และทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ เนื่องจากแยกความแตกต่างค่อนข้างยาก
7. โยนลงบนกระจก
ทองคำเป็นโลหะที่มีเนื้อไม่แข็งเหมือนเหล็กหรือทองแดง หากโยนทองลงบนกระจกแล้วได้ยินเสียงกระทบแบบนุ่มนวล เสียงไม่แหลมดัง แสดงว่าเป็นทองแท้ แต่หากได้ยินเสียงดังแก๊งดังและแหลม ก็โบกมือลาได้เลยค่ะ
8. กรดไนตริกเข้มข้น
เป็นหนึ่งในวิธีที่ร้านทองส่วนใหญ่ใช้พิสูจน์ทอง ทางร้านจะหยดกรดไนตริกลงบนทอง หากไม่เกิดปฏิกิริยาใด ๆ เช่น เปลี่ยนสีหรือหลอมละลาย แสดงว่าเป็นทองแท้ แต่หากเป็นทองปลอมที่มีโลหะอื่นผสม ทองจะละลายไปเอง
9. เผาไฟ
ถือเป็นวิธีที่ร้านทองส่วนใหญ่ใช้พิสูจน์ทองหากพิสูจน์ด้วยวิธีอื่นแล้วยังได้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ โดยจะใช้ไฟแช็กเผาให้ทองร้อนจนกว่าจะมีสีแดง จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น หากทองกลับมามีสีเหลืองทองเหมือนเดิม แสดงว่าเป็นทองแท้ แต่ถ้าทองมีสีดำหรือคล้ำลง แสดงว่าทองแท่งนั้นมีส่วนผสมอื่นอยู่ด้วย เนื่องจากส่วนผสมเหล่านั้นจะทำปฏิกิริยากับอากาศจนเกิดเป็นออกไซด์ ทำให้สีที่ออกมาไม่เหมือนเดิม
ทำไมหลาย ๆ คนถึงเลือกซื้อทองหลุดจำนำ
หากคุณเป็นสายลงทุนที่ต้องการซื้อทองมาเก็งกำไรรอวันขายแล้วล่ะก็ การประหยัดต้นทุนด้วยการเลือกซื้อทองคำหลุดจำนำซึ่งมีราคาไม่สูงมากถือเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนสนใจ แต่ต้องอย่าลืมว่าทองคำที่ได้มาจะมีสภาพไม่สวยงามเต็มร้อยเหมือนของใหม่ นอกจากนี้ควรศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับร้านขายทองหรือโรงรับจำนำให้ดีก่อนว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันการสูญเงินเปล่าโดยที่ไม่มีกำไรติดมือมาแม้แต่น้อย
ทำไมใครหลายคนถึงไว้วางใจ Irin Gems
ทางเรา ไอรินทร์เจมส์ เป็นร้านพลอยแท้, เพชรแท้ รวมถึงเครื่องประดับและของหลุดจำนำที่มีตัวตนมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ทางเราไม่ใช่ร้านที่ไปรับของที่อื่นมาขายเพียงอย่างเดียว แต่เรามีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง จึงควบคุมกระบวนการผลิตเองทุกขั้นตอนและแบ่งกระจายสินค้าสู่ตลาดเครื่องประดับไทย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราสามารถดูแลเครื่องประดับที่มาจากร้านเพชรร้านทองอื่นได้ดีเหมือนเป็นสินค้าของร้านเราเอง
เราคือ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ที่มีบริการ jewelry one stop service ตอบโจทย์ครบทุกปัญหาเกี่ยวกับเครื่องประดับตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวเรือน ไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีทีมดีไซน์ที่พร้อมออกแบบเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะซ่อม, ชุบ, ขัด หรือล้าง ตรงตามความต้องการของคุณ และที่สำคัญเรายังเป็นอาณาจักรของหลุดจำนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งส่งตรงจากโรงรับจำนำทั่วเมืองไทยที่มีการอัปเดตสินค้าทุกอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเราค่ะ