เพชรแต่ละชนิด

เพชรแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร แยกให้ออกก่อนลงทุน

หากพูดถึงเครื่องประดับเพชรแล้ว สามารถจำแนกออกได้หลากหลายประเภทตามที่มาของเพชรและแหล่งเจียระไน วันนี้เราจะพามาดูกันว่าเพชรมีกี่ชนิด เพชรแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร มาดูกันค่ะ

เพชรมีกี่ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร

1. เพชรที่แบ่งตามที่มา

แบ่งเป็นเพชรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเพชรที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์ ได้แก่

1.1 เพชรธรรมชาติ

หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า เพชรแท้ เป็นเพชรที่เกิดขึ้นจากแรงดันและความร้อนใต้พื้นผิวโลกที่ลึกลงไปมากกว่า 150 กิโลเมตร จากผิวโลกซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 1,652 – 2,373 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อแมกมาเคลื่อนตัวจนเกิดภูเขาไฟปะทุ ทำให้ผลึกเพชรดิบถูกดันขึ้นมาสู่เปลือกโลกตามปล่องหินคิมเบอร์ไลต์ (Kimberlite) และปล่องหินแลมโพรไอต์ (Lamproite) ต่อมาหินเหล่านี้จะผ่านกระบวนการกัดกร่อน ทำให้เพชรหลุดออกมาและสะสมตัวตามแหล่งตะกอนน้ำ หรือตามชายหาด

เนื่องจากเพชรธรรมชาติเป็นกลุ่มก้อนของคาร์บอน 100% มีลักษณะเป็นผลึกโครงร่างตาข่ายที่คาร์บอนแต่ละอะตอมยึดเกาะกันด้วยพันธะโคเวเลนต์แบบเดี่ยว (Single Bond) ทำให้คาร์บอน 1 อะตอม สามารถยึดเกาะกับคาร์บอนอะตอมอื่นได้อีก 3 อะตอม เพชรที่ได้จึงแข็งแรงมาก เพชรธรรมชาติส่วนใหญ่มักพบได้ตามเหมืองธรรมชาติ โดยเพชรที่เจอครั้งแรกเราจะเรียกว่า “เพชรดิบ” ซึ่งเป็นเพชรที่ไม่ผ่านการเจียระไนใด ๆ จึงไม่มีความแวววาวให้เห็น

1.2 เพชรสังเคราะห์

มีอีกชื่อนึงคือ “Synthetic Diamond” เป็นเพชรที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นภายในห้องแล็บ ส่วนใหญ่ทำมาจากแกรไฟต์ จึงมีโครงสร้างหลวมกว่าโครงสร้างของเพชรแท้ เนื่องจากอะตอมคาร์บอนในแกรไฟต์ 1 อะตอม สามารถยึดคาร์บอนอะตอมอื่นด้วยพันธะโคเวเลนต์แบบเดี่ยว (Single Bond) 2 พันธะ และพันธะโคเวเลนต์แบบคู่ (Double bond) ได้เพียง 1 พันธะ โมเลกุลจึงมีช่องว่างระหว่างชั้นมากกว่า โครงสร้างจึงแข็งแรงน้อยกว่าเพชรแท้ แต่หากนำแกรไฟต์มาผลิตในห้องแล็บที่มีความกดดันสูงถึง 50,000 – 100,000 บรรยากาศ ก็จะได้เพชรที่มีลักษณะเหมือนเพชรแท้เช่นกัน เพชรสังเคราะห์มีคุณสมบัติทางเคมีเหมือนเพชรธรรมชาติทุกอย่าง จึงไม่สามารถตรวจดูได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถดูได้จากรูปทรงคริสตัลที่มีหน้าเพชรอยู่ที่ 6-8 ด้าน ขณะที่เพชรแท้มีหน้าเพชร 8 ด้าน และสีเพชรที่ได้ส่วนใหญ่จะมีทั้งไร้สี, เกือบไร้สี, สีเหลืองเข้ม และสีเหลืองอมน้ำตาล เพชรสังเคราะห์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • เพชรสังเคราะห์ CVD (Chemical Vapor Deposition) เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์เพชรในห้องสุญญากาศ ภายในบรรจุก๊าซมีเทนเพื่อให้ก๊าซแตกตัว กลายเป็นอะตอมคาร์บอน, ไฮโดรเจน และเศษเพชรธรรมชาติ ออกมาเป็นผลึกเพชรสังเคราะห์
  • เพชรสังเคราะห์ HPHT (High Pressure High Temperature) เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์เพชรที่จำลองแรงกดดันและการทำอุณหภูมิในห้องแล็บให้มีความร้อนสูงเท่าใต้พิภพ จากนั้นจึงนำคาร์บอนไปละลายกับโลหะหลอมเหลว จนเกิดเศษเพชรสังเคราะห์หรือเศษเพชรธรรมชาติ เพื่อนำมาทำเป็นผลึกเพชรสังเคราะห์

แล้วเพชรสังเคราะห์เป็นเพชรแท้หรือเพชรเทียม

เพชรสังเคราะห์จัดเป็นเพชรแท้ประเภทหนึ่ง เพราะมีคุณสมบัติทางเคมีแตกต่างจากเพชรแท้ไม่มาก ในขณะที่เพชรเทียมมีคุณสมบัติแตกต่างจากเพชรสังเคราะห์โดยสิ้นเชิง เนื่องจากไม่มีองค์ประกอบใด ๆ เหมือนเพชรเลย

1.3 เพชรเทียม

เป็นเพชรที่ผลิตขึ้นโดยไม่มีคาร์บอนผสมอยู่ด้วย แต่มีสารที่มีผลึกคล้ายกัน เช่น สตรอนเชียมไททาเนต (SrTiO2) หรือคิวบิกเซอร์โคเนีย (ZrO2 Y2O3) ทำให้เพชรที่ได้สวยงามไม่แตกต่างจากเพชรแท้ แต่เพชรเทียมแข็งแรงและกระจายแสงได้น้อยกว่าเพชรแท้

2. เพชรที่แบ่งตามแหล่งเจียระไน

หลังจากขุดเพชรดิบขึ้นมาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจะจำแนกคุณภาพเพชรและส่งไปเจียระไนตามประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เพชรสวยงามและนำไปใช้งานได้ดียิ่งขึ้น โดยแบ่งตามแหล่งเจียระไนทั้ง 3 แห่ง ดังนี้

2.1 เพชรเบลเยียม

สมัยก่อนประเทศเบลเยี่ยมจัดว่าเป็นแหล่งเจียระไนเพชรที่มีเครื่องมือและเทคโนโลยีระดับสูง บวกกับมีช่างฝีมือจำนวนมาก ทำให้ผลงานที่ออกมาเป็นที่นิยมและยอมรับเนื่องจากเพชรมีสัดส่วนที่สมมาตร เล่นไฟได้ดีกว่าเพชรที่เจียระไนจากแหล่งอื่น มีความประณีตที่ช่วยให้สะท้อนแสงและส่องประกายเพชรได้ดี ที่สำคัญยังช่วยซ่อนตำหนิเพชรได้อย่างแนบเนียนอีกด้วย

2.2 เพชรอินเดีย

สมัยก่อนเพชรอินเดียเป็นเพชรที่มีเกรดรองลงมาจากเพชรเบลเยียม เนื่องจากความไม่สม่ำเสมอของมุมเหลี่ยมเพชรและความไม่สมมาตรของเพชร แต่ในปัจจุบันกลับเป็นประเทศที่ส่งออกเพชรมากที่สุดในโลก (80%) เนื่องจากการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีการเจียระไน ทำให้เพชรที่ได้มีคุณภาพเทียบเท่ากับเพชรเบลเยียมเลยทีเดียว แต่เนื่องจากค่าแรงที่ต่ำทำให้เป็นที่นิยมของบริษัทผลิตเพชรทั่วโลก

2.3 เพชรรัสเซีย

แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ เพชรรัสเซียนคัท และเพชรรัสเซีย CZ

  • เพชรรัสเซียนคัท (Russian cut) เป็นเพชรแท้ที่ถูกส่งไปเจียระไนที่ประเทศรัสเซียในระดับเกรด A ทำให้เพชรที่ออกมามีการเจียระไนเหลี่ยมที่คมชัดและสวยงาม
  • Cubic Zirconia (CZ) เป็นเพชรที่สังเคราะห์มาจากเซอร์โคเนีย (Zirconia) ที่มีความใกล้เคียงกับเพชรแท้มากที่สุด ลักษณะของเพชรรัสเซียจะมีสีใสสะอาด, ไร้ตำหนิ, การสะท้อนแสงแวววาวคล้ายเพชรแท้ แถมยังคงทนมาก จึงถูกนำมาใช้แทนเพชรแท้ ส่วนใหญ่มักจะนำมาใส่ในตัวเรือนเงิน (Stainless Steel) นำมาวางจำหน่ายในราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพันต้น ๆ

แล้วเพชรชนิดไหนเหมาะสำหรับการลงทุน

ทั้งนี้เราขอให้ตัดเพชรเทียมและเพชรสังเคราะห์ออกไปเลยค่ะ เนื่องจากเป็นเพชรที่ไม่มีคุณสมบัติเหมือนเพชรแท้ จึงมีโอกาสเสียหายง่าย แถมยังราคาถูกมากจึงถูกนำไปใช้ในเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าทั่วไป แน่นอนว่าร้านรับซื้อเพชรไม่รับซื้ออยู่แล้ว หรือหากรับซื้อก็ให้ราคาที่น้อยกว่าตอนซื้อมา หากต้องการซื้อเพชรเพื่อเก็งกำไรจริง ๆ ทางเราแนะนำให้ซื้อเพชรแท้ดีกว่าค่ะ เพราะเพชรแท้มีทั้งคุณภาพดีตามหลัก 4Cs ที่รับรองด้วยใบเซอร์ฯ เพชรจากสถาบันอัญมณีชั้นนำจากต่างประเทศ และตัวเพชรดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับสวมใส่เองก็ได้เช่นกัน การมีเพชรแท้ไว้ครอบครองจะช่วยการันตีได้ว่า หากวันไหนเราต้องการนำเพชรไปขายก็จะได้ราคาที่ตรงใจเราแน่นอนค่ะ ทั้งนี้อย่าลืมมองหาใบเซอร์ฯ เพชรทุกครั้งก่อนซื้อเพชรนะคะ

ส่วนใครที่กำลังมองหาเครื่องประดับเพชรพลอยสวย ๆ คุณภาพดีสักชิ้นอยู่แล้วล่ะก็ Irin Gems เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เราเป็นร้านเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรีที่เปิดทำการมานานเกือบ 2 ทศวรรษ เรามีสินค้าให้เลือกชมเลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับเพชรแท้, พลอยแท้ และของหลุดจำนำอื่น ๆ เรากล้าการันตีคุณภาพเครื่องประดับทุกชิ้น ทางเรามีโรงงานเป็นของตัวเอง สามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตตัวเรือนไปจนถึงเครื่องประดับสำเร็จรูป นอกจากนี้เรายังมีบริการ jewelry one stop service รองรับทุกความต้องการและแก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุด เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้บริการกับเรา

บทความที่น่าสนใจ

แชร์บทความ

คุณน่าจะสนใจ

Line

Your cart

No products in the cart.